ทัวร์ลิเบีย แอลจีเรีย ทริปเดียว 2 ประเทศ 23 วัน สุดคุ้ม
  8 คืน
12 คืน
บินภายใน 4 รอบ  ตั๋วเครื่องบิน
 หัวหน้าทัวร์ไทย ประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพการเดินทาง |
|
ทัวร์ลิเบีย แอลจีเรีย ทริปเดียว 2 ประเทศ 23 วัน สุดคุ้ม
ทริปเดียว เที่ยว2 ประเทศ ดินแดนแห่งเจ้าสาวสีขาว ลิเบีย รวม 10คืน & อาณาจักรโรมัน ที่เคยยิ่งใหญ่ แอลจีเรีย รวม 10คืน
กรุ๊ปลิเบีย ประเทศเดียว เดินทางวันที่ 3 - 15 กุมภาพันธ์ 2568 ยืนยันการเดินทาง...ตั๋วกรุ๊ป..ซื้อเก้าอี้สายการบินหลังจากออกตั๋วแล้วเท่านั้น
กรุ๊ปลิเบีย+แอลจีเรีย รวม 2 ประเทศ เดินทางวันที่ 3-25 กุมภาพันธ์ 2568 (ครบ6ท่านออกเดินทาง)...ตั๋วเดี่ยว...ซื้อเก้าอี้สายการบินหลังจากออกตั๋วแล้วเท่านั้น
| วันเดินทาง | ผู้ใหญ่ 2ท่าน/ห้อง | เด็กไม่เสริมเตียง | เด็กเสริมเตียง | พักเดี่ยว +เพิ่ม | |||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
|||||||||||||
|
อ้างอิงราคา สำหรับวันที่ 21/11/24 18:38:26 เท่านั้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ปรับเปลี่ยนวันเดินทาง และราคา โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า |
|||||||||||||
|
| |||||||||||||
โปรแกรมทัวร์ : ทัวร์ลิเบีย แอลจีเรีย ทริปเดียว 2 ประเทศ 23 วัน สุดคุ้ม
**วีซ่าลิเบีย-แอลจีเรีย ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าทัวร์ปกติ แนะนำลูกค้าที่สนใจเดินทาง
แจ้งจองทัวร์ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง 3 เดือน** (ทริปสำรวจกรณีไม่ได้เข้าชมบางแห่ง
บริษัทฯ จะคืนค่าเข้าชม หรือ พาไปชมอย่างอื่นแทน
โปรดทำความเข้าใจ ก่อนการจองทัวร์)
วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ - อิสตันบูล (ตุรเคีย)
19.00 คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ
22.50 ออกเดินทางโดยเที่ยวบิน TK069 โดยใช้เวลาบินประมาณ11.15 ชั่วโมง
วันที่สอง อิสตันบูล (ตุรเคีย) - สนามบินมิทิกา ทริโปลี (ลิเบีย)
06.05 ถึงสนามบินอิสตันบูล นำท่านต่อเที่ยวบินในสนามบินอิสตันบูล
08.20 เครื่องบินออกเดินทางสู่สนามบินมิทิกา ทริโปลี (ลิเบีย) โดยเที่ยวบิน TK639.ใช้เวลาบิน2.30ชม.
10.30 ถึงสนามบินมิทิกา ทริโปลี ประเทศลิเบีย เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5ชั่วโมง นำท่านผ่านเข้า ตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋า
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์คารามันลี โดยกษัตริย์ อาลี ปาชาร์ แอล คาลามาลี จนกระทั่งท่านเสียชีวิตในบ้านหลังนี้ บ้านหลังนี้มีน้ำพุที่สวยงามและผนังที่ปูด้วยกระเบื้องโมเสค มีสองชั้น ชั้นล่างประกอบด้วยห้องสี่ห้อง ได้แก่ ห้องอัสซาดะห์ ห้องพักแขก ห้องเสื้อผ้า ห้องสุขา และห้องครัว ห้องนอน ห้องอาวุธประวัติศาสตร์และดั้งเดิม มีหุ่นจำลองที่แต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมจากทุกช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ลิเบีย
จากนั้นเดินสู่หอนาฬิกา เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียง หอนาฬิกาสูง 18เมตร ตั้งสง่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเก่าเมดิน่า และการก่อสร้างแบบออตโตมันระหว่างปี 1866-1870 ชมเสาโค้งโรมันโค้งมาร์คัส ออเรลิอุส ตั้งอยู่ด้านหน้าเมืองเก่าเมดิน่า
ชมพิพิธภัณฑ์แห่งลิเบีย ในปี2010 อดีตอาคารแห่งนี้เป็นพระราชวังของกษัตริย์อิดริสในกรุงตริโปลี ชื่อลิเบีย แต่ชาวลิเบียออกเสียงว่าลีเบีย ต่อมาในปี 2010 ประธานาธิบดีกัดดาฟีได้นำพระราชวังแห่งนี้มาดัดแปลงเป็นพระราชวังของประชาชน การจัดแสดงพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นลักษณะเสมือนจริงไม่ใช่ของจริง โดยใช้เทคโนโลยีม่านหมอกแทนด้วยจอฉายภาพแบบดั้งเดิมและขนาดใหญ่ เรียกว่า “Dry fog” ที่ได้รับการขนานนามว่าเทคโนโลยีแห่งทศวรรษ
จากนั้นเดินทางสู่ จัตุรัสแอลจีเรียซึ่งมีมัสยิดที่ดัดแปลงมาจากมหาวิหาร วิวจากด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ มองเห็นถนนลาดยางมุ่งสู่จัตุรัสแอลจีเรีย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือต้นปาล์มสูงสง่าและกำแพงสีขาวสะอาดใต้ท้องฟ้าสีฟ้าใส
ถ่ายรูปด้านนอกวิหารทริโปลีสร้างขึ้นประมาณปี 1923 และเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1928 แม้ว่าจะเสร็จสมบูรณ์บางส่วนก็ตาม สร้างในสมัยที่ลิเบียตกอยู่ในอาณานิคมของอิตาลี สถาปนิกดั้งเดิมคือ ซัฟโฟ ปันเตรี ผู้ออกแบบอาสนวิหารสไตล์โรมาเนสก์ โดยมีมหาวิหารและโดม (โดม) สูงรวม 46 เมตร รวมทั้งหอระฆัง (หอระฆัง) สูง 60 เมตร และตกแต่งด้วยศิลปะยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา งานแกะสลักและรูปปั้นสไตล์เวนิส
นำท่านเดินต่อสู่ย่านจัตุรัสผู้พลีชีพ เป็นจัตุรัสที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ทั้งหมดตั้งแต่ระบบการปกครองฟาสซิสต์ของอิตาลี จนถึงระบอบกษัตริย์ ต่อมาถึงสังคมนิยมของกัดดาฟี ที่จัตุรัสจะคึกครื้นในตอนกลางคืนเพราะจะประดับประดาด้วยแสงไฟสีเหลืองสว่างไสวแปลกตา
จากนั้นเดินทางต่อสู่ตลาดเมืองเก่ามีตรอกคดเคี้ยวคึกคักอบอวลด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศเป็นตลาดที่มีชีวิตชีวาของนักช้อป มีทั้งสิ่งทอ เสื้อผ้า เครื่องทองแดง เครื่องหนังและของใช้ในบ้าน ฯลฯ จากนั้นชมด้านนอกหอคอยชื่อแอล ฟาเทค Al-Fateh หรือ Al-Fateh Tower ด้านในอาคารเป็นที่ตั้งสำนักงานธุรกิจที่สำคัญๆ ของลิเบีย
วันที่สาม ทริโปลี – กาดาเมส
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเดินทางสู่เมืองกาดาเมส ระหว่างทางแวะชม ปราสาทยุ้งฉางป้อมปราการเบอร์เบอร์ของ Qasr Alhaj สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ปราสาทเหล่านี้แต่เดิมใช้เป็นที่เก็บผลิตผลในท้องถิ่น เช่น น้ำมันมะกอก (ในไหดินเผา) และธัญพืช แต่ละครอบครัวในหมู่บ้านจะมีสถานที่พิเศษที่กำหนดไว้ โครงสร้างทั้งหมดมักจะเป็นวงกลมและมีประตูทางเข้าหลัก ปราสาทเหล่านี้ทำให้นึกถึงข้อความที่นักประวัติศาสตร์บางคนกล่าวถึงว่าชาวลิเบียเป็นคนแรกที่คิดค้นระบบธนาคาร
ดังนั้นคุณจึงกำลังดูธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในทางใดทางหนึ่ง แต่ละห้องเหล่านี้ได้พัฒนากลายเป็นห้องนิรภัยในธนาคารสมัยใหม่ ซึ่งครอบครัวที่ร่ำรวยสามารถฝากของมีค่าอันมีค่าของพวกเขาไว้เพื่อความปลอดภัย ปราสาทมี 114 ห้อง มีจุดห้องโถงตรงกลางเพื่อใช้ในการสวดมนต์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางต่อสู่ Qasr Nalut or Qasr Lalot เป็นอีกปราสาทยุ้งฉางที่สร้างบนเทือกเขานาฟูซา สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 640 เมตร สร้างโดยชุมชนเบอร์เบอร์ในแอฟริกาเหนือ มันตั้งอยู่บนยอดเขาเพื่อช่วยปกป้องจากการบุกค้น สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 และถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่ปี 1960
เดินทางต่อสู่เมืองกาดาเมส Ghadames หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ไข่มุกแห่งทะเลทราย" เป็นเมืองโอเอซิสในเขต Nalut ของภูมิภาค Tripolitania ทางตะวันตกเฉียงใต้ของลิเบีย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
วันที่สี่ กาดาเมส
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ
นำท่านเที่ยวชมเมืองกาดาเมส เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในยุคก่อนทะเลทรายซาฮารา และเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการตั้งถิ่นฐานแบบดั้งเดิม เมืองนี้มีประชากรประมาณ 10,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเบอร์เบอร์ ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านอิฐและปาล์มแบบดั้งเดิมที่รวมตัวกันอย่างแน่นหนา เรียงตัวกันเหมือนรวงผึ้ง บ้านแต่ละหลังมีสถาปัตยกรรมแนวตั้งทั่วไป โดยชั้นล่างใช้เก็บสิ่งของ และอีกชั้นหนึ่งสำหรับครอบครัว และที่ด้านบนสุดมีระเบียงเปิดโล่งไว้สำหรับผู้หญิง ทางเดินบนชั้นดาดฟ้าทำให้ผู้หญิงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระโดยปกปิดจากสายตาของผู้ชาย โครงสร้างที่ยื่นออกมาครอบคลุมตรอกซอกซอยระหว่างบ้าน ทำให้เกิดโครงข่ายทางเดินเกือบใต้ดิน ปัจจุบันเป็นเมืองโอเอซิสเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ติดกับสวนปาล์ม ไม่มีอาคารใดที่หลงเหลืออยู่มีอายุตั้งแต่สมัยเบอร์เบอร์ก่อนประวัติศาสตร์ หรือยุคการปกครองของโรมัน แต่รูปแบบสถาปัตยกรรมในประเทศที่โดดเด่นทำให้กาดาเมสแตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในยุคก่อนทะเลทรายซาฮารา และการตั้งถิ่นฐานที่ทอดยาวไปตามขอบด้านเหนือของทะเลทรายตั้งแต่ลิเบียไปจนถึงมอริเตเนีย เมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้มีรูปแบบคร่าวๆ เป็นรูปวงกลม ประกอบด้วยบ้านเรือนหลายหลัง ผนังเสริมด้านนอกของบ้านที่อยู่ชายขอบเมืองเป็นกำแพงเสริม กรงแบบพื้นฐานในเมืองนี้ถูกทะลุผ่านประตูและป้อมปราการต่างๆ ส่วนเก่าของเมืองได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1986
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย เที่ยวชมในเมืองกาดาเมส
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
วันที่ห้า กาดาเมส - ทริโปลี
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ
นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองทริโปลี ระหว่างทางแวะชมเมืองคาเบา เป็นเมืองในเขต Nalut ทางตะวันตกเฉียงเหนือของลิเบีย อยู่ห่างจากถนนการ์ยัน-นาลุตเพียง 9 กิโลเมตร (6 ไมล์) และห่างจากจาดูไปทางตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร (43 ไมล์) บนขอบด้านเหนือของที่ราบสูงตริโพลิตาเนียนในเทือกเขานาฟูซาในอดีต คาเบา เป็นเมืองเบอร์เบอร์ในเขตปกครองกาดาเมสหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มันถูกยึดครองโดยกองทัพฝรั่งเศสและปกครองจากตูนิเซีย มันถูกคืนสู่การควบคุมของลิเบียในปี 1951 การก่อสร้างอาคารหลายๆแห่งบนเทือกเขานาฟูซาในอดีตแสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองทางสถาปัตยกรรมในอดีต
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
เดินทางต่อสู่เมืองทริโปลี
เย็น รับประทานอาหารเย็นภายในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรมฯ....................
วันที่หก ทริโปลี – เอลเบย์ดา (โดยบินภายในประเทศ)
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯพร้อมเช็คเอ้าท์และเดินทางสู่สนามบินมิทิกา ทริโปล
........ .เครื่องบินออกสู่สนามบินเบกาซี่
..........ถึงสนามบินเบกาซี่นำท่านรับกระเป๋าและเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง
เมืองเบงกาซีเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศลิเบีย เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคไซรีไนกา (หรืออดีตจังหวัด) และเคยเป็นเมืองหลวงชั่วคราวของสภาการเปลี่ยนผ่านแห่งชาติ พื้นที่มหานครที่กว้างกว่า (ซึ่งรวมถึงเมืองทางใต้ของกิมีนิสและซูลุค) ยังเป็นเขตหนึ่งของลิเบีย เมืองท่าแห่งนี้ตั้งอยู่บนทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รัฐบาลลิเบียได้ให้การรับรองเมืองเบงกาซีว่าเป็น เมืองแห่งสันติภาพอย่างเป็นทางการด้วยตราประทับอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21กันยายน 2013
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเที่ยวชมเมืองเบกาซี เมืองตากอากาศที่สวยงาม เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของลิเบียเป็นที่ตั้งของสุสานสงครามที่ได้รับการดูแลอย่างงดงาม (ประเทศลิเบียมีบทบาทสำคัญในกองพลแอฟริกาเหนือ) ชมเมืองเก่าที่มีอาคารที่ออกแบบอย่างมีศิลปะและตลาดที่มีสีสัน ไม่ไกลจากเมืองเบงกาซียังมีเมืองเล็กๆ ชื่อเอลเบย์ดา อาจไม่ได้มีชื่อเสียงมากนักในด้านการท่องเที่ยว แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่สำรวจซากปรักหักพังอันยิ่งใหญ่ของไซรีน อพอลโลเนีย และสลอนตา นอกจากนี้ยังมีอาคารสไตล์อาณานิคมหลายแห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัยอิสลามอีกด้วย ที่เมืองแห่งนี้ยังให้ความสำคัญทางศาสนาและการจิบชากับชาวลิเบียอีกด้วย
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม...............
วันที่เจ็ด เอลเบย์ดา - ไซรีน - อะพอลโลเนีย – เอลเบย์ดา
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรม
เดินทางสู่เมืองไซรีน เมืองมรดกโลก เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของเพนตาโปลิส รัฐที่มีห้าเมืองในศตวรรษที่ 1 และมีขนาดใหญ่เป็นรองเพียงเอเธนส์เท่านั้น ไซรีนก่อตั้งโดยชาวกรีกในปี 631 ก่อนคริสตกาล และต่อมาถูกยึดครองโดยชาวโรมันและอาหรับ คุณจะได้เยี่ยมชมวิหารที่มีชื่อเสียงของซุสและอะพอลโล
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่เมือง อะพอลโลเนีย อันน่าทึ่ง ซึ่งเป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางเหนือ 12 ไมล์ ที่นี่ เมืองโบราณประกอบด้วยรายละเอียดของโรงละครที่ประณีตในการแกะสลัก ที่สง่างาม ห้องอาบน้ำโรมัน และพระราชวังไบแซนไทน์ ที่ยังคงน่าทึ่งให้เห็นถึงปัจจุบัน
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม......................
วันที่แปด เอลเบย์ดา – พิพิธภัณฑ์แห่งเมืองคัสร์ลิเบีย - เบงกาซี
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ
นำท่านเดินทางสู่เมืองคัสร์ลิเบีย อดีตเมืองแห่งนี้เรียกว่า ธีโอโดเรียส คือเมืองไบแซนไทน์ ในไซรีน ก่อตั้งขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 539 โดยจักรพรรดิจัสติเนียน เพื่อชมพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจซึ่งมีชิ้นส่วนโมเสกมากกว่า 50 ชิ้นที่มีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 6 โดยกระเบื้องโมเสกบนพื้นในมหาวิหารด้านตะวันออกถือเป็นสมบัติทางศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลิเบีย สิ่งที่เหลืออยู่ของเมืองนี้คือโบสถ์ไบแซนไทน์สองแห่ง รวบรวมโบราณวัตถุของโบสถ์ที่ขุดค้นโดยริชาร์ด กูดไชลด์ในช่วงกลางทศวรรษ 1950 มีเพียงผังพื้นเท่านั้นที่ยังคงอยู่ แต่แผงโมเสกสวยงามจำนวน 50 แผงที่แสดงภาพโลกที่เรารู้จักและการก่อตั้งและการตกแต่งเมืองใหม่โดยธีโอโดราจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ในหนึ่งในนั้น มีโมเสกสองแผ่นเปิดเผยชื่อของมาคาริออสและธีโอโดรอส ซึ่งเป็นบิชอป โดยบิชอปคนหลังมีคุณสมบัติเป็น "บิชอปคนใหม่" ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของมาคาริออส
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเที่ยวชมภายในเมืองเบงกาซี่
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม......................พักค้างคืนในเมืองเบงกาซี
วันที่เก้า เบงกาซี - ทริโปลี (บินภายในประเทศ)
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
เที่ยง ได้เวลาเดินทางกลับสู่กรุงทริโปลี (อาหารกลางวันบนเครื่องบิน)
........ เครื่องบินออกเดินทางจากสนามบินเบกาซี
.........ถึงสนามบินทริโปลีนำท่านรับกระเป๋าและเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม............ภายในเมืองทริโปลี
วันที่สิบ.... ทริโปลี - เลปติส มักนา - ทริโปลี (พักโรงแรมเดิม)
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ
นำท่านเดินทางสู่เมืองเลตีส มักนา ประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นที่ตั้งของเมืองโบราณโรมันที่มีความสวยและความสำคัญที่สุดในลิเบีย และงดงามที่สุดในจักรวรรดิโรมัน ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดตั้งอยู่ปากแม่น้ำ Wadi Lebda ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ผู้ก่อตั้งดั้งเดิมคือชาวฟินีเซียนในศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสต์ศักราช ได้รับการขยายอย่างกว้างขวางภายใต้จักรพรรดิโรมัน Septimius Severus (ครองราชย์ ค.ศ. 193–211)
ในช่วงหลังของศตวรรษที่ 3 ดิโอคลีเชียนคืนสถานะเมืองให้เป็นเมืองหลวงของจังหวัด และเติบโตขึ้นอีกครั้งในความเจริญรุ่งเรืองจนกระทั่งตกเป็นของพวกแวนดัลในปี 439 เมืองนี้ถูกรวมเข้าเป็นจักรวรรดิตะวันออกในปี 533 แต่ยังคงถูกรบกวนจากการจู่โจมของชาวเบอร์เบอร์ และตกอยู่กับการรุกรานของชาวมุสลิมในค.ศ. 647 และต่อมาก็ถูกทิ้งร้าง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเยี่ยมชมเมืองโบราณแห่งนี้คือ The Libyan Gorgon (Medusa) เทพกอร์กอนเทพปกป้องสถานที่แห่งนี้ มีความเชื่อว่ามนุษย์ที่คิดร้าย ฝ่าฝืนทำลายเมืองแห่งนี้จะถูกหยดเลือดจากหัวของเทพเมดูซ่า ถูกสาปให้กลายเป็นงูในทะเลทราย ไฮไลท์อีกหนึ่งชิ้นที่ไม่ควรพลาดคือหินวัดผ้าจากตลาดผ้า เพื่อวัดความยาวและความกว้างของผ้าเพื่อการซื้อขายในอดีต ที่ยังคงตั้งตระหง่านในเมืองโบราณแห่งนี้ นำท่านชมรอบๆเมืองโบราณที่มีทั้ง ตลาด ร้านค้า โรงละคร ฯลฯ เมืองโบราณแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 1990 และได้รับความช่วยเหลือจากองค์การยูเนสโก้ ช่วยมายุติปัญหาน้ำท่วมโบราณแห่งนี้
ได้เวลาเดินทางกลับสู่เมืองทริโปลี
วันที่สิบเอ็ด... ทริโปลี – ซาบราธา - ทริโปลี (พักโรงแรมเดิม)
นำท่านเดินทางสู่ซาบราธา ตั้งอยู่ที่ตะวันตกสุดของ "สามเมือง" โบราณของโรมันตริโปลิส เคียงข้าง Oeaโอเอียและ Laptis Magna เลปติส มักนา อดีตตั้งแต่ปี 2544 ถึง 2550 ที่นี่เป็นเมืองหลวงของเขตซาบราธา วา ซอรแมน เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนประมาณ 70 กม. (43 ไมล์) ทางตะวันตกของทริโปลี แหล่งโบราณคดีที่ยังหลงเหลืออยู่นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2525
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเยี่ยมชมเมืองซาบราธา ซึ่งถูกขุดค้นหลายครั้งตั้งแต่ปี 1921 โดยนักโบราณคดีชาวอิตาลีเป็นหลัก เมืองแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมฉากหลังที่สวยงาม วิหารที่สร้างอุทิศให้กับเทพ Liber Pater, Serapis และ Isis มีอาคารมหาวิหารของชาวคริสต์ในสมัยจัสติเนียนที่โดดเด่น และยังมีพื้นกระเบื้องโมเสคบางส่วนที่หลงเหลืออยู่ วิลล่าของชนชั้นสูงของชาวโรมันบนชายฝั่งแอฟริกา มีพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ติดกันซึ่งมีสมบัติบางอย่างจาก Sabratha แต่บางแห่งสามารถพบเห็นได้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในตริโปลี เมืองโบราณได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะของชายฝั่ง โดยเฉพาะในเดือนเมษายน ปี2016 โบราณได้รับผลกระทบอย่างหนักทำให้อาคารพังทลายลง
ความช่วยเหลือในการสร้างเขื่อนกันคลื่นที่ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือและแท่นมะกอกยังไม่เพียงพอและเล็กเกินกว่าจะปกป้องเมืองโบราณซาบราธาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ได้เวลาเดินทางกลับสู่เมืองทริโปลี
วันที่สิบสอง ทริโปลี - อิสตันบูล - แอลเจียร์ **วีซ่าแอลจีเรีย ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าทัวร์ปกติ แนะนำลูกค้าที่สนใจเดินทาง แจ้งจองทัวร์แอลจีเรียล่วงหน้าก่อนการเดินทาง 2 เดือน**
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯพร้อมเช็คเอ้าท์
ออกเดินทางสู่สนามบินทริโปลี
12.30 เครื่องบินออกเดินทางสู่อิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK640 ใช้เวลาประมาณ 3.20 ชั่วโมง (อาหารกลางวันทานบนเครื่องบิน)
16.50 ถึงสนามบินอิสตันบูล จากนั้น นำท่านต่อเที่ยวบิน TK655 (อาหารเย็นทานบนเครื่องบิน)
22.45 เดินทางถึง ท่าอากาศยานเฮาวรี บูเมอเดียน เมืองหลวงแอลเจียร์ นำท่านผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง
นำท่านพักผ่อนค้างคืนที่เมืองแอลเจียร์.................................ระดับ4ดาว
นำท่านชม มัสยิดเก่าแก่เอล ดีเจดดิด สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่17 โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างสไตล์ฝรั่งเศสและสไตล์ดั้งเดิม
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
วันที่สิบสี่ แอลเจียร์ – ทิปาซา – เชอร์เชลล์ - แอลเจียร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางสู่เมือง ทิปาซา ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประมาณ 80 กม. ทางตะวันตกของแอลเจียร์ เป็นเมืองท่าโรมันทั่วไปที่มีความมั่งคั่งและอิทธิพลสูงสุดภายใต้จักรพรรดิเซ็ปติมุส เซเวอรัส (ค.ศ. 193-211) มันถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกัน 2.2 กม. ซึ่งช่วยรักษาความสมบูรณ์ของมันในการต่อต้านกองกำลังที่บุกรุกจนในที่สุดมันก็ถูกทำลายโดย Vandals ในปี ค.ศ. 372 หลังจากนั้นเมืองก็ทรุดโทรมและวัสดุก่อสร้างของทิปาซาจำนวนมากถูกนำมาใช้ในการก่อสร้าง ของประเทศแอลเจียร์
นำท่านชม "หลุมฝังศพของสตรีชาวคริสต์ Royal Mausoleum of Mauretania " เพราะมีรูปทรงเหมือนกากบาทของเส้นแบ่งที่ประตูเท็จ ในภาษาอาหรับ สุสานเรียกว่า Kubr-er-Rumia หรือ Kbor er Roumia ซึ่งหมายถึงหลุมฝังศพของหญิงชาวโรมัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางต่อสู่เมืองเชอร์เชลล์ Cherchell เมืองท่าเรือ ที่นี่มีหอประภาคารขนาดเล็กและเต็มไปด้วยเรือประมงท้องถิ่น อดีตเมืองนี้มีชื่อเสียงด้านการผลิตเหล็กกล้า เรือดิน และเครื่องใช้เหล็กเพื่อส่งออกให้กับประเทศข้างเคียง นำท่านชมท่าเรือและจัตุรัสผู้พลีชีพ
ชมด้านนอกของมัสยิด El Rahman ที่มีเสา 100 ต้น อาคารหลังนี้มีลักษณะเหมือนโบสถ์คริสต์เพราะอดีตเป็นมหาวิหารเซนต์ปอลจนถึงปี ค.ศ. 1574
ชมอนุสาวรีย์คาทอลิกแห่งนี้สร้างขึ้นบนยอดวิหารโรมันเก่าแก่ จากนั้นชม ซากเมืองโรมันเก่าแก่ ชมพิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งเชอร์เชลล์ เพื่อดูซากของอดีตจักรวรรดิอันรุ่งโรจน์ ในตอนท้ายของทัวร์นิทรรศการถาวร ซึ่งมีงานประติมากรรมมากมายและผลงานอันโดดเด่นอื่น ๆ จากสมัยโบราณ
ได้เวลาเดินทางกลับสู่เมืองแอลเจียร์ เมืองหลวง
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ค่ำ นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก.............................. ระดับ 4 ดาว
วันที่สิบห้า แอลเจียร์ - เมืองโบราณดีเจมิลา – กงส์ตอนติน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม พร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณดีเจมิลา (ระยะทางประมาณ 325 กม., ประมาณ 4 ชม.) มีพื้นที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านขนาดเล็กบริเวณภูเขาทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแอลเจียร์ สถาปัตยกรรมที่พบในการก่อสร้างเมืองโบราณแห่งนี้เป็นแบบโรมัน ซึ่งจะพบสถาปัตยกรรมรูปแบบนี้ในเฉพาะภูมิภาคแอฟริกาตอนเหนือเท่านั้น ดีเจมิลาได้รับการคัดเลือกจาก องค์กรยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลก (World Heritage Site) ในปี ค.ศ.1982
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม เมืองโบราณดีเจมิลา ชมลานกลางแจ้ง ศาสนสถาน, มหาวิหาร, ซุ้มประตู,โมเสค และตลาดโรมัน ที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี
จากนั้น ออกเดินทางสู่ เมืองกงส์ตองติน (ประมาณ 2.30 ชม.) ซึ่งเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในทวีปแอฟริกา มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากกรุงแอลเจียร์และเมืองออราน ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ-ตะวันออกของประเทศแอลจีเรีย อยู่ห่างจากกรุงแอลเจียร์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 320 กิโลเมตร สร้างขึ้นโดยชาวอาหรับ เมื่อประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว มีลักษณะเป็นเมืองป้อมปราการบนโขดหินสูงกว่า 240 เมตร เหนือหุบเขาลำน้ำเบื้องล่าง มีกำแพงและประตูเมืองสร้างในสมัยกลาง รวมทั้งซากเมืองโรมันในบริเวณใกล้เคียง กงส์ตองตินเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ นูมิเดียเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนคริสต์ศักราช ต่อมาจักรพรรดิคอนสแตนติน มหาราชจักรพรรดิของโรมันได้บูรณะขึ้นใหม่ในปีคริสต์ศักราช 313 ต่อมาฝรั่งเศสยึดครองไว้ในปี ค.ศ. 1837 ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งสะพาน” เนื่องจากมีสะพานอันงดงามมากมาย ที่เชื่อมระหว่างภูเขาและหุบเหว กับเมือง ซึ่งถูกสร้างไว้หลายแห่ง
เช่น สะพานแขวน ซิดี เอ็มซิด ซึ่งเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในโลก มีความสูง 175 เมตร ยาว 164 เมตร ข้ามแม่น้ำรัมเม ในเมืองกงส์ตองติน ประเทศแอลจีเรีย
นำท่านชม สะพานเดินเท้า เมลล่า สลิมาเนห์ เดินข้ามช่องแคบที่ดูน่าหวาดเสียวและตื่นเต้น ซึ่งท่านจะได้เห็นทิวทัศน์ของโตรกผาและบ้านที่สร้างอยู่ในหุบเขา
จากนั้นนำท่านชม อนุสาวรีย์แห่งความตาย ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 1
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ค่ำ นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก.....................................ระดับ 4 ดาว
วันที่สิบหก กงส์ตองติน - โรงละครโรมัน – น้ำพุร้อนธรรมชาติ - กงส์ตองติน
นำท่านเดินทางสู่ โรงละครโรมัน ในจังหวัดคลามา ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โรงละครแห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 12-13 ด้วยราคาทองคำประมาณ 3,000 ชิ้นในเวลานั้น สร้างขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิ Septemus โดยแม่ชี Anya Elia Stiterta อนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ที่หายากทั่วโลกทั้งในรูปแบบเรขาคณิตและสถาปัตยกรรมปัจจุบันโรงละครโรมันแห่งนี้ยังถูกนำมาใช้เป็นที่แสดงคอนเสิร์ต หรือ ศิลปวัฒนธรรมด้านโบราณคดี สร้างรายได้ท่องเที่ยวให้จังหวัดอย่างมากมาย อิสระให้ท่านเดินชมโรงละครและถ่ายรูปกับสถานที่มรดกโลกแห่งนี้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านแวะชม น้ำพุร้อนทางธรรมชาติหรือที่รู้จักกันในชื่อ Hammam Debagh หรือ Hammam Chellala เป็นหินน้ำธรรมชาติและน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ในเมืองและชุมชนของ Hammam Debagh ในจังหวัด Guelma ประเทศแอลจีเรีย ประวัติการใช้สถานที่นี้ย้อนไปถึงยุคโรมันในศตวรรษที่ 1 ลักษณะกำแพงหินหลากสีที่น่าทึ่งในฤดูใบไม้ผลิได้ ดึงดูดความสนใจจากคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวตั้งแต่ยุคของจักรวรรดิโรมัน
ได้เวลานำท่านเดินทางกลับเมืองกงส์ตองติน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ค่ำ นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก............................ระดับ 4 ดาว
วันที่สิบเจ็ด กงส์ตองติน – ทิมกัต– กงส์ตองติน - ทามารัสเซซ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโบราณ ทิมกัต ตั้งอยู่บริเวณทางตอนเหนือของเทือกเขาออร์เร็ส ห่างจากเมืองกงส์ตองติน 110 กิโลเมตร เป็นสถานที่ตั้งของเมืองโบราณภายใต้การปกครองของจักรพรรดิไตรดานุส แห่งจักรวรรดิ์ทราจัน ปัจจุบันเมืองโบราณทิมกัตได้รับการคัดเลือกจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ในปีคริสต์ศักราช 1982
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม เมืองโบราณทิมกัต อดีตที่เคยเป็นห้องสมุด ศาสนสถาน อัฒจันทร์ และมหาวิหารของจักรวรรดิ์ทราจัน ที่เคยรุ่งเรือง มีสถาปัตยกรรมที่หลากหลายซึ่งประกอบด้วยประเภทต่างๆ มากมายและหลากหลาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกันของการก่อสร้าง ระบบป้องกัน อาคารสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกและการแสดงสาธารณะ และศาสนสถาน Timgad แสดงภาพชีวิตของการล่าอาณานิคมของโรมันในแอฟริกาเหนือกว่าสามศตวรรษ
ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินเมืองกงส์ตองติน เพื่อบินสู่เมืองทะเลทรายทางใต้ ทามานราสเซ็ต
...........เดินทางสู่สนามบินทามารัสเสดโดยเที่ยวบิน AH.............
...........ถึงเมืองทามารัสเสด จากนั้นรับกระเป๋า และเดินทางสู่โรงแรม
เย็น รับประทานอาหารค่ำภายในที่พัก
ค่ำ นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก............................โรงแรมท้องถิ่นไม่มีดาว
กรุณาเตรียมกระเป๋าใบเล็กเพื่อไปพักที่แคมป์ 1คืน กรุณาเตรียมไฟฉาย อุปกรณ์พักในทะเลทราย ในช่องเอสเซเคม เทือกเขาฮอกการ์
วันที่สิบแปด ทามานราสเซ็ต - เอสเซเคม - เทือกเขาฮอกการ์
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ พร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านออกเดินทางไปยังอุทยานเอสเซเคม ทะเลทราย ซึ่งห่างจากเมืองทามานราสเซ็ต ประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อชมที่ราบสูงของเทือกเขาฮอกการ์ ที่เต็มไปด้วยหินรูปทรงแปลกๆ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก
เยี่ยมชม Hermitage of Charles de Foucault (สร้างขึ้นในปี 1910) อาศรมของชาเรส เดอ ฟูโกต และค่ำคืน ชมพระอาทิตย์ตกแบบพาโนรามา
ค่ำ รับประทานอาหารเย็นและพักค้างคืนที่ที่พักสไตล์แคมป์ชาวบ้าน
วันที่สิบเก้า เอสเซเคม - ทามานราสเซ็ต
นำท่านชมพระอาทิตย์ขึ้นอันน่ามหัศจรรย์เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบเช้าท้องถิ่น
นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองทามานราสเซ็ต โดยผ่านแหล่งน้ำธรรมชาติที่เป็นประกายที่เรียกว่าทาฮาบาวท
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันสไตล์ท้องถิ่น
นำท่านเที่ยวชมตลาดอาชการ์ ย่านตลาดแอฟริกาและย่านช่างเครื่องเงิน
เย็น รับประทานอาหารค่ำสไตล์แอฟริกาและพักค้างคืนที่โรงแรม.......ในเมืองทามานราสเซ็ต
วันที่ยี่สิบ ทามานราสเซ็ต - ทากามัต - ทามานราสเซ็ต
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯพร้อมเช็คเอ้าท์
ออกเดินทางไปยังทากามัต กลุ่มหินสีดำที่มีรูปร่างแปลก ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามและหินสีดำรูปร่างแปลกตา พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับชีวิตดั้งเดิมของบรรพบุรุษของทามานราสเซ็ตและต้นกำเนิดของการเขียนอักษรวิจิตร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก
นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองทามานราสเซ็ต
เย็น รับประทานอาหารค่ำและพักค้างคืนที่โรงแรม.......ในเมืองทามานราสเซ็ต
วันที่ยี่สิบเอ็ด ทามานราสเซ็ต - แอลเจียร์
เช้าตรู่ รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯพร้อมเช็คเอ้าท์
......... ออกเดินทางสู่สนามบินทามานราสเซ็ต เพื่อบินกลับสู่เมืองแอลเจียร์
..........ถึงสนามบินแอลเจียร์
13.00 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเที่ยวชมเมืองแอลเจียร์
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ค่ำ พักผ่อนค้างคืนภายในเมืองแอลเจียร์
วันที่ยี่สิบสอง แอลเจียร์ - อิสตันบูล
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรม
07.00 เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม และนำท่านเดินทางสู่สนามบินแอลเจียร์ เพื่อบินกลับอิสตันบูล
11.40 เครื่องบินออกเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล ประเทศ ตุรเคีย โดย TK652 (เวลาบิน3.40ชั่วโมง)
17.20 ถึงสนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย จากนั้นนำท่านต่อเที่ยวบินเข้าสู่กรุงเทพฯ
19.40 ออกเดินทางจากอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK064 (เวลาบิน 8.40 ชม.)
วันที่ยี่สิบสาม อิสตันบูล - กรุงเทพฯ
08.20 เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
บางสถานที่มีเวลาเปิด-ปิด ไม่ทั้งวัน-บางแห่งไม่ได้เปิดทำการทุกวัน บริษัทฯจะพาไปเข้าชมอย่างอื่นแทน
ดังนั้นขอให้ท่านโปรดทำความเข้าใจก่อนการจองทัวร์ กรณีไม่สามารถเข้าได้จริงๆ จะคืนแค่เงินชม
2.วีซ่าลิเบีย-แอลจีเรีย ใช้สำเนาพาสปอร์ตยื่นล่วงหน้า3สัปดาห์ จากนั้นนำเล่มพาสปอร์ตตัวจริง
พร้อมเอกสารอื่นๆ ไปประทับวีซ่า ใช้เวลาประมาณ 3สัปดาห์ (โปรดเผื่อเวลา)
**************
1. กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3เดือนก่อนการเดินทาง พร้อมชำระงวดแรก 100,000 บาท / ท่าน
2. ส่วนที่เหลือชำระทันทีก่อนการยื่นวีซ่าประมาณ 15 วันก่อนการเดินทาง เนื่องจากจะต้องใช้ในการออกตั๋วเครื่องบินและเอกสารต่างๆ เพื่อยืนยันการเดินทาง ในการประกอบการพิจารณาวีซ่าของทางสถานทูต
3. กรณีวีซ่าไม่ผ่านการพิจารณาจากทางสถานทูตฯ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่า, ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง
4. การยกเลิกต้องแจ้งล่วงหน้า 60 วัน ** ก่อนเดินทาง มิฉะนั้นทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินมัดจำ งวดแรก
5. กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 45 วัน ** บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 50 % ของค่าทัวร์
6. กรณียกเลิกน้อยกว่า30วันนับจากวันเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าใช้จ่าย 100% ของค่าทัวร์
1.ค่าตั๋วเครื่องบินโดยสารไป-กลับ ชั้นประหยัด โดยสายการเตอร์กิชแอร์ไลน์ แบบตั๋วกรุ๊ปไม่สามารถสะสมไมล์ได้
2.บินภายในประเทศลิเบีย2ครั้ง และ บินภายในประเทศแอลจีเรีย 2ครั้ง (เวลามีการปรับเปลี่ยน)
3.ค่าห้องพักโรงแรม
4.ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
5.ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุตามรายการ
6.ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
7.ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท การรักษาพยาบาลต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง ต่อระยะเวลาการเดินทาง // กรณีอายุเกิน 85 ปี จะทำได้เฉพาะประกันอุบัติเหตุเท่านั้น
คุ้มครองไม่เกิน 500,000 บาท
*เงื่อนไขการเอาประกัน และการคุ้มครองประกันการเดินทาง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทฯประกันภัย ตามกรมธรรม์เท่านั้น*
1.ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ,ค่าเครื่องดื่มสั่งพิเศษ ฯลฯ
2.ค่าทิปพนักงานขับรถ 20วันและไกด์ท้องถิ่น 20 วัน รวม 5 ยูโร/วัน (รวม105ยูโรตลอดการเดินทาง)
3.สายการบินตุรกีแอร์ ขายที่นั่งตลอดเส้นทาง กรณีที่ท่านไม่ซื้อที่นั่ง รับเก้าอี้หน้าเคาเตอร์ตอนเช็คอินท์
4.ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้า เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน
5.ค่ากล้องถ่ายรูปวีดีโอ และค่ากล้องมือถือ บางสถานที่ที่เรียกเก็บ
6.ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีต้องการใบกำกับภาษี)
7.การบริการยกกระเป๋าเป็นการบริการเสริมเพิ่มเติม ทั้งนี้บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบกรณีกระเป๋าแตก ขีดข่วน หู้หิ้วหลุด เช่น กรณีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ยกขึ้นสายพานของแอร์ไลน์ หรือกรณีเจ้าหน้าที่โรงแรมยกเข้าออกโรงแรมหรือคนขับรถยกขึ้นรถบัสหรือยกเข้าออกเรือที่พักบนเรือ และทำให้กระเป๋าเกิดความเสียหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบใดๆให้ท่านได้ เพื่อความสบายใจกรณีลูกค้ากังวลเรื่องกระเป๋ากรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆเพื่อลูกค้าจะได้ยกกระเป๋าท่านเอง
8.กรณีกระเป๋าสูญหายระหว่างทัวร์ บริษัทฯ ขอคืนกิโลกรัมละ 15USD ตามน้ำหนักเอกสารแอร์ไลน์ที่ท่านเช็คอินท์จากกรุงเทพฯ มา
9.กรณีลูกค้าจะต้องทานซีฟู้ดทุกๆมื้อ.ลูกค้าสามารถสั่งเพิ่มและชำระเงินที่ร้านอาหารได้โดยตรง
10.กรณีแอร์ไลน์เปลี่ยนแปลงแจ้งเวลาบินกระทันหัน หรือ เที่ยวบินดีเลย์ บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบตั๋วเครื่องบินๆภายในประเทศให้ท่านได้
11.กรณีขอที่นั่งพิเศษ บริษัทฯ จะทำการรีเควสร้องขอแอร์ไลน์ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่ยืนยันจะได้ตามที่ขอหรือไม่ขึ้นอยู่กับแอร์ไลน์ดำเนินการ
12.สายการบินจะเป็นผู้จัดที่นั่งบนเครื่องบิน บริษัทฯ จะทำการรีเควสร้องขอแอร์ไลน์ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถยืนยันจะได้ตามที่ขอหรือไม่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแอร์ไลน์ดำเนินการ กรณีที่ท่านต้องการซื้อเก้าอี้ กรุณาแจ้งล่วงหน้า
13.ค่าเข้าห้องน้ำ สำหรับห้องน้ำเอกชนกรณีบางสถานที่เรียกเก็บ รบกวนชำระตรงผู้ให้บริการ
1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเลื่อนกำหนดการเดินทาง ในกรณีที่ไม่สามารถ จัดกรุ๊ปทัวร์อียิปต์ได้ถึง 15 ท่าน และ/หรือ ผู้ร่วมเดินทางในคณะไม่สามารถผ่านการพิจารณาวีซ่าได้ครบ 15 ท่าน
2. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ต่างๆ
3. เนื่องจากรายการทัวร์อียิปต์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือ ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
4. กำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือผลประโยชน์ ตลอดจนความปลอดภัยของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ
คำชี้แจ้ง
1.บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งเกี่ยวกับการบริการยกกระเป๋า ที่สนามบิน โรงแรม เรือ หรือรถบัส ..เป็นการบริการที่บริษัทฯ ยินดีให้บริการลูกค้าและไม่ได้บวกรวมค่ากระเป๋าเสียหาย ลงในค่าทัวร์ ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆ ก็ตามกรณีค่ากระเป๋าเสื่อมสภาพ แตกหัก หูหิ้วหลุด จากการยกขึ้นสายพาน หรือยกเข้าโรงแรมหรือเข้าเรือ หรือยกลงจากรถบัส หรือ เป็นรอยขีดข่วน ดังนั้น กรณีที่ท่านยอมรับความเสียหายได้ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานเพื่อยกให้ท่าน บริษัทฯ ยินดีให้บริการแต่กรณีที่ท่านจะยกเอง รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานก่อนการซื้อขายทัวร์...เพื่อจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ท่านยกกระเป๋าท่านเองทุกๆสถานที่ ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายใดๆได้
2.กรณีกระเป๋าสูญหายระหว่างทัวร์ บริษัทฯ ขอคืนกิโลกรัมละ 15USD ตามน้ำหนักเอกสารแอร์ไลน์ที่ท่านเช็คอินท์จากกรุงเทพฯ มา
3.บริษัทฯ จัดการเดินทางเป็นคณะพร้อมกัน ดูแลลูกค้าอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน กรณีที่ท่านต้องการความเป็นส่วนตัวและการบริการที่เหนือผู้อื่นผู้ใด และไม่ต้องการมิตรภาพจากผู้ใดในคณะ บริษัทฯ ขอความกรุณาให้ท่านแจ้งก่อนการจองทัวร์
4.กรณีที่ท่านแพ้อาหาร แพ้ส่วนผสมต่างๆ เช่นพริกไทย ผงชูรส แพ้ถั่ว แพ้แป้งสาลี หรือต้องการอาหารพิเศษ และจำเป็นต้องทานซีฟู้ดทุกมื้อที่มีกุ้ง หอย ปู หรือปลา หรือทานเนื้อไก่ไม่ได้ หรือทานเนื้อวัวไม่ได้ หรือทานเนื้อแพะไม่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯจะพยายามจัดหาและแจ้งร้านอาหารก่อนการเดินทางทุกครั้ง กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถจัดหาได้ หรือถ้าจัดแล้วอาจจะต้องเป็นเมนูซ้ำๆ หรือมื้อไหนบริษัทฯไม่สามารถจัดหาให้ได้บริษัทฯ ขออนุญาตจัดเป็นสลัดผักท้องถิ่น ไข่ต้มหรือไข่เจียว หรืออาหารท้องถิ่นแบบไม่มีเนื้อสัตว์แทน
*การขอที่นั่งพิเศษบนเครื่องบิน เช่น ริมทางเดิน ริมหน้าต่าง บริษัทฯ ไม่การันตี และไม่สามารถรับผิดชอบ กรณีไม่ได้ที่นั่งตรงตามลูกค้าต้องการได้ เนื่องจากเป็นการจัดการของสายการบิน บริษัทฯ ไม่สามารถแทรกแซงได้
**กรณีลูกค้าใช้ตั๋วเครื่องบินกับบริษัทฯ จะเป็นตั๋วหมู่คณะ ตั๋วโปรโมชั่นพิเศษ การจัดที่นั่งจะเป็นโซนกรุ๊ปจะอยู่ช่วงท้ายลำของเครื่องบิน สายการบินเป็นผู้จัดที่นั่งให้ บริษัทฯ จะทำการรีเควส สายการบินตามที่ลูกค้าต้องการ แต่ไม่สามารถการันตีที่นั่งได้ เนื่องจากหลายสายการบินแยกขายที่นั่งเพิ่มจากราคาตั๋วเครื่องบิน หากลูกค้าต้องการนั่งแถวหน้าๆ หรือหน้าสุด จำเป็นต้องซื้อที่นั่งเพิ่ม หรือใช้ตั๋วเครื่องบินเดี่ยวแทนตั๋วกรุ๊ป ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่รวมในค่าทัวร์ *ราคาที่นั่งจะสามารถซื้อได้หลังจากการออกตั๋วเครื่องบินแล้ว หลังจากซื้อที่นั่งแล้วจะไม่สามารถยกเลิก หรือขอคืนเงินได้ ราคาที่นั่งจะทราบ ณ วันที่เช็คราคากับทางสายการบินแต่ละวัน
*ช่วงเวลาต่อเครื่องบินระหว่างประเทศ และในประเทศ ลูกค้าต้องตรวจสอบเวลาเรียกขึ้นเครื่องให้ถูกต้อง เนื่องจากสายการบินไม่มีประกาศการเรียกขึ้นเครื่อง หากลูกค้าตกเครื่อง ขึ้นเครื่องไม่ทัน ลูกค้าต้องชำระการซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่เอง บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบในส่วนนี้
*สำหรับท่านที่จะออกตั๋วภายในประเทศ ซื้อตั๋วเครื่องบินเอง เป็นดุลยพินิจของลูกค้า กรณีแอร์ไลน์ยกเลิกบิน หรือเปลี่ยนเวลาบิน บริษัทฯ ขออนุญาตไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เนื่องจากอยู่เหนือความควบคุมของบริษัทฯ และก่อนออกตั๋วเครื่องบินต้องได้รับคำยืนยันจากบริษัทว่ากรุ๊ปยืนยันเดินทางแล้วแน่นอนแล้ว บริษัทฯแนะนำ ควรออกตั๋วภายในประเทศให้ช้าที่สุด
*การบริการยกกระเป๋า ที่สนามบิน โรงแรม เรือ หรือรถบัส ..เป็นการบริการที่บริษัทฯ ยินดีให้บริการลูกค้าและไม่ได้บวกรวมค่ากระเป๋าเสียหาย ลงในค่าทัวร์ ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆ ก็ตามกรณีค่ากระเป๋าเสื่อมสภาพ แตกหัก หูหิ้วหลุด จากการยกขึ้นสายพาน หรือยกเข้าโรงแรมหรือเข้าเรือ หรือยกลงจากรถบัส หรือ เป็นรอยขีดข่วน ดังนั้น กรณีที่ท่านยอมรับความเสียหายได้ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานเพื่อยกให้ท่าน บริษัทฯ ยินดีให้บริการแต่กรณีที่ท่านจะยกเอง รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานก่อนการซื้อขายทัวร์... เพื่อจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ท่านยกกระเป๋าท่านเองทุกๆสถานที่ ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายใดๆได้
*กรณีที่ท่านแพ้อาหาร แพ้ส่วนผสมต่างๆ เช่นพริกไทย ผงชูรส แพ้ถั่ว แพ้แป้งสาลี หรือต้องการอาหารพิเศษ และจำเป็นต้องทานซีฟู้ดทุกมื้อที่มีกุ้ง หอย ปู หรือปลา หรือทานเนื้อไก่ไม่ได้ หรือทานเนื้อวัว เนื้อแพะไม่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯจะพยายามจัดหาและแจ้งร้านอาหารก่อนการเดินทางทุกครั้ง กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถจัดหาได้ หรือถ้าจัดแล้วอาจจะต้องเป็นเมนูซ้ำๆ บริษัทฯ ขออนุญาตจัดเป็นสลัดผักท้องถิ่น ไข่ต้มหรือไข่เจียว หรืออาหารท้องถิ่นแบบไม่มีเนื้อสัตว์แทน
*กรณีลูกค้าที่เดินทางไปร่วมกับคณะในต่างประเทศหรือลูกค้าที่ไม่ได้เดินทางไป-กลับพร้อมคณะ เช่นเดินทางไปก่อน หรือยู่ต่อ ไม่กลับพร้อมคณะ ขอให้ลูกค้าทำประกันการเดินทางของท่านเอง เนื่องจากบริษัทฯ ทำประกันการเดินทางแบบหมู่คณะที่เดินทางไปกลับพร้อมคณะเท่านั้นและประกันเฉพาะอุบัติเหตุเท่านั้นไม่รวมสุขภาพ,ไม่รวมโควิด,ไม่รวมโรคประจำตัว,ไม่รวมภัยสงครามหรือภัยจากก่อการร้าย
*ที่นั่งบนรถบัส บริษัทฯขอความร่วมมือให้ลูกค้านั่งด้านหน้ารถบัสให้ครบทุกเบาะก่อน เพื่อให้ทุกท่านได้นั่งเบาะปกติก่อน และขอสงวนสิทธิ์แถวหน้าสุดสำหรับไกด์ และหัวหน้าทัวร์ เพื่อเป็นพื้นที่ประสานงาน ดังนั้นขอเก้าอี้แถวด้านหน้า ขอเป็นที่นั่งสำหรับที่นั่ง 1 ท่าน/เบาะที่นั่ง เนื่องจากเส้นทางระยะไกล เบาะที่นั่งแถวหลังอาจเกิดการเมารถและไม่สบายกับผู้ที่นั่งหลังๆได้
*บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ โรงแรมที่พัก ก่อนเดินทาง และหลังจบทริป ทุกกรณี เนื่องจากอยู่นอกเหนือจากโปรแกรมทัวร์ และเกิดจากเหตุผลที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ เช่น สายการบินล่าช้า สายการบินยกเลิก สายการบินเปลี่ยนเวลาบิน เหตุสุดวิสัยภัยทางธรรมชาติ เหตุสงคราม การจราจล เป็นต้น
*************
