ทัวร์อินเดีย เที่ยว 2 รัฐ รัฐมหาราษฏระ รัฐคุชราต ถ้ำอชันต้า แอลโรร่า อาห์เมดาบัด
7 คืน
บินภายใน 3 รอบ ตั๋วเครื่องบิน หัวหน้าทัวร์ไทย ประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพการเดินทาง |
|
ทัวร์อินเดีย เที่ยว 2 รัฐ รัฐมหาราษฏระ รัฐคุชราต ถ้ำอชันต้า แอลโรร่า อาห์เมดาบัด
ทริปเดียวเที่ยว 2 รัฐ รัฐมหาราษฏระ รัฐคุชราต
สัมผัสความมหัศจรรย์ มรดกโลก ถ้ำอชันต้า แอลโลร่า ท่องแดนศาสนสถาน ดินแดนแห่งศรัทธา ประติมากรรมจากภูผาหิน พร้อมชมความยิ่งใหญ่ของ "มุมไบ" ถ่ายรูปกับประตูชัย Gateway of India สัญลักษณ์ของเมืองมุมไบ
เที่ยวรัฐคุชราต รัฐที่มีโบราณสถานที่เก่าแก่ มีประติมากรรม การแกะสลัก ที่อ่อนช้อย ที่สวยงามมาก ชมสปาปัตยกรรมโบราณสถานจากอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ เช่น พระราชวังที่เก่าแก่ ศาสนาสถาน รวมถึงบ่อน้ำโบราณต่างๆ ที่มีการแะสลัก แสดงถึงวัฒนธรรมโบราณ
วันเดินทาง | ผู้ใหญ่ 2ท่าน/ห้อง | เด็กไม่เสริมเตียง | เด็กเสริมเตียง | พักเดี่ยว +เพิ่ม | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
|||||||||||||
อ้างอิงราคา สำหรับวันที่ 21/11/24 21:00:43 เท่านั้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ปรับเปลี่ยนวันเดินทาง และราคา โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า |
|||||||||||||
|
โปรแกรมทัวร์ : ทัวร์อินเดีย เที่ยว 2 รัฐ รัฐมหาราษฏระ รัฐคุชราต ถ้ำอชันต้า แอลโรร่า อาห์เมดาบัด
วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2567 กรุงเทพ – มุมไบ(บอมเบย์)
15.00 คณะพบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์การบินไทย ROW H เข้าทางประตู2-3 เจ้าหน้าที่บริษัทฯให้การต้อนรับและเช็คอินท์
18.55 ออกเดินทางโดยการบินไทย เที่ยวบิน TG317 (ใช้เวลาเดินทาง 4.30 ชั่วโมง )
22.00 ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฉัตรปตี ศิวาจี มหาราช นครมุมไบ ประเทศอินเดีย หลังผ่าน ขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองนำท่านผ่านตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋า
จากนั้นเดินทางสู่ที่พักโรงแรมฯ.............................ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2567 มุมไบ(บอมเบย์) – เกาะเอเลเฟ่นต้า - ออรังกาบัด
07.00 รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ พร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านถ่ายรูปกับ ประตูชัย Gateway of India สัญลักษณ์ของ เมืองมุมไบ เป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประเทศอังกฤษโดยตรง สถานที่นี้สร้างเพื่อใช้ต้อนรับKing George ที่ 5 และ Queen Marry คราวเสด็จไปอินเดียเมื่อครั้งพระองค์ยังทรงตำแหน่งมกุฎราชกุมาร ( Crown Prince) เมื่อปี ค.ศ. 1911
ออกเดินทางสู่ เกาะเอเลเฟ่นต้า เพื่อนั่งเรือประมาณ45นาที เพื่อชมเทวาลัยถ้ำอันอลังการ ถ้ำเอเล่เฟ่นต้า Elephanta Caves (มรดกโลก) เทวาลัยเหล่านี้ขุดเจาะในศตวรรษที่7 และ 8 งานประติมากรรมชิ้นเอกเป็นเทวรูปพระศิวะครึ่งองค์ สูง 5 เมตร มีสามเศียร แสดงปางผู้สร้าง ผู้รักษา และผู้ทำลาย
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น(บ่าย 2-3)
นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองมุมไบ โดยเรือประมาณ45นาที
15.00 นำท่านเดินทางสู่สนามบินมุมไบ เพื่อบินสู่สนามบินออรังกาบัตรัฐมหาราษฏระ
19.25 เครื่องบินออกโดยทางโดยสายการบินอินดิโก้ BOMIXU 1925-2040
20.40 ถึงสนามบินออรังกาบัตรัฐมหาราษฏระประเทศอินเดีย จากนั้นนำท่านรับกระเป๋า
เดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม …………………. 4* รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรมฯ
วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2567 เมืองออรังกาบัด – ถ้ำเอลโลร่า - ออรังกาบัด
เช้า รับอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ
นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำเอลโลร่า Ellora ( UNESCO World Heritage ) สร้างในปีค.ศ.600-1000 หรือ พ.ศ.1100 –ประมาณ พ.ศ.1400 หมู่ถ้ำนี้เป็นวัด และศาสนาสถานเจาะเข้าไปในภูเขา เช่นเดียวกับอชันต้า แต่สร้างขึ้นในสมัยหลัง หมู่ถ้ำนี้มีถึง 3 ศาสนา คือ พุทธ ฮินดู และเชน มีทั้งหมด 34 ถ้ำ และเป็นถ้ำพุทธอยู่ชุดแรก เริ่มจากทิศใต้ ถ้ำ 1 ถึง12 ถ้ำ13 ถึง 29 เป็นถ้ำของศาสนาฮินดู รวม17 ถ้ำ และถ้ำ 30-34 อีก 5 ถ้ำ เป็นถ้ำของศาสนาเชน หรือศาสนามหาวีระในบรรดาหมู่ถ้ำทั้งหมด เทวาลัยถ้ำเขาไกรลาส (Kailasanatha Temple )นับเป็นเพชรน้ำเอก (ถ้ำ 16 ) การแกะสลักจะทำจากด้านบนสุด แล้ว ค่อยๆไล่ลงมา นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชมภาพแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามของเหล่าทวยเทพทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรูปองค์พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระพิฆเนศ ช้างเอราวัณตลอดทั้งเหล่านางเทพ อัปสร และอีกมากมาย
15.00 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (รับประทานอาหารช้าเพราะว่าต้องเดินในถ้ำ)
16.00 ได้เวลาอันสมควร นำท่านสู่เดินทางกลับสู่เมือง ออรังกาบัด
แวะชม บีบี กา มักบารา (Bi Bi Ka Maqbara) สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก สร้างโดยพระโอรสของออรังเซบ ทรงสร้างเพื่อรำลึกถึงพระมารดา (พระนาง บีกัมราเบีย อุเด ดาราณี)สถาปัตยกรรมลักษณะคล้ายทัชมาฮาล
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น /
นำท่านเข้าสู่ที่พักและรับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรมฯ โรงแรม .............................ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2567 ออรังกาบัด- ถ้ำอะชันต้า – มุมไบ
06.00 รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ
07.00 ออกเดินทางเพื่อชม ถ้ำอชันต้า ระยะทาง 105 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือ นั่งรถประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ( มรดกโลก ) หมู่ถ้ำอชันต้า ซึ่งที่จริงก็คือวัดในพุทธศาสนา ที่เจาะและแกะสลักเข้าไปในภูเขาอยู่เรียงกันเป็นหมู่รวม 30 ถ้ำ เป็นถ้ำยุคแรก เก่าแก่มาก มีกำเนิดเริ่มแต่ก่อนคริสต์ศักราช ประมาณ 200 หรือ 150 ปี คือราวพ.ศ. 350 หรือ 400 และคาดว่าสร้างมาถึงปี พ.ศ. 1200 และถูกทอดทิ้งกลายเป็นป่ารกชัฏประมาณ 700- 800ปี จนมาถูกค้นพบอีกครั้งโดยบังเอิญในปี พ.ศ.2362 (ค.ศ.1819 ) โดยทหารอังกฤษที่มาล่าสัตว์ ซึ่งเท่ากับ ได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ของโลก หมู่ถ้ำอชันต้าเป็นถ้ำพุทธศาสนาล้วนๆ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นสาย หีนยาน หรือ เถรวาท พุทธศาสนาที่ไปสู่เมืองไทย มีอยู่ 6 ถ้ำคือ ถ้ำที่ 8,9,10,12,13 และ 15 ซึ่งเป็นหมู่ถ้ำที่เก่าแก่ที่สุด ประมาณ พ.ศ.400-600 ส่วนที่เหลือจากนั้น อีก 24 ถ้ำเป็นสาย มหายาน หลายถ้ำก็เป็นแบบผสมคือเป็นของหีนยานแต่เดิม แล้วฝ่ายมหายานมาเติมแต่งทีหลัง ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่าง ถ้ำเถรวาท กับ ถ้ำมหายาน ก็คือ ในพุทธศาสนาเถรวาทยุคแรกนั้นไม่มีพระพุทธรูป มีแต่พระสถูป ต่อมาตอนหลังๆ ก็มีพระพุทธรูปชัดเจนขึ้น
ชมความมหัศจรรย์ อลังการ สร้างจากศรัทธาของ ชาวอินเดียภายในถ้ำสลักเสลาเป็นเสาประดับลวดลายอันงดงาม พระพุทธรูป และเจดีย์ศิลาที่สกัด และตบแต่งขึ้น จากหินชิ้นเดียวกับพื้น และผนังถ้ำภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 1,200 ปี มีความงดงามสมบูรณ์ด้วย เทคนิคการเขียนภาพสามมิติอันน่าอัศจรรย์ พระพุทธรูปศิลา ที่แสดงอารมณ์พระพักตร์ต่างกันเมื่อแสงตกสะท้อนจากต่างมุม
14.00 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (รับประทานอาหารช้า)
16.00 ได้เวลาอันสมควร นำท่านสู่เดินทางกลับสู่สนามบินเพื่อบินกลับสู่เมืองมุมไบ
18.00 รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
19.00 นำท่านเดินทางสู่สนามบินออรังกาบัด
21.10 เครื่องบินออกเดินทางโดยอินดิโก้ IXUฺBOM 2110-2220
22.20 ถึงสนามบินมุมไบ จากนั้นนำท่านรับกระเป๋าและเข้าสู่ที่พักโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรมฯ ...................ภายในเมืองมุมไบระดับ4ดาว
วันพุธที่ 1 มกราคม 2568 มุมไบ - ถ้ำเคนหารี - อาห์เมดาบัด
เช้า รับประทานอาหารเช้าพร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำกัณเหรี Kanheri Cave ซึ่งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติ Sanjay Gandhi หรือชื่อเดิม Borivali National Park ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 42 ก.ม.จากมุมไบ เมืองที่มีความวุ่นวายในมุมไบ แต่กลับมีอุทยานและถ้ำ ที่ไม่ห่างไกลเมืองวุ่นวาย คำว่า “Kanheri” ซึ่งเป็นชื่อของถ้ำนั้น มา จากภาษาสันสกฤตคำว่า “Krishnagiri” ซึ่งหมายถึงภูเขาสีดำ สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ถึง 9 ถ้ำแห่งนี้มีจำนวนทั้งหมด 109 ห้องซึ่งแต่งละห้องก็มีเรื่องราวความสำคัญต่างกันไป ถ้ำที่โดดเด่นคือ ถ้ำหมายเลข 3
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
กรณีมีเวลาให้ท่านอิสระช้อปปิ้งภายในห้าง
18.00 รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
19.00 นำท่านเดินทางสู่สนามบินออรังกาบัด
21.40 เครื่องบินออกเดินทางโดยอินดิโก้ BOMAMD 2140-2250 ....บินภายในประเทศได้15กิโลกรัมต่อท่านค่ะ
22.50 ถึงสนามบินอาห์เมดาบัด จากนั้นนำท่านรับกระเป๋าและเข้าสู่ที่พักโรงแรมโรงแรม...........................ระดับ4ดาวในเมืองอาห์เมดาบัด
วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม 2568 อาห์เมดาบัด - ปาทัน - โมดเหรา – อาห์เมดาบัด
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองปาตัน Patan ที่สร้างโดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ Chavda ในช่วงที่ปกครองโดยราชวงศ์ฮินดูและมุสลิมหลายราชวงศ์ เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองการค้าและเมืองหลวงของภูมิภาคทางตอนเหนือของคุชราต เมืองนี้มีวัดฮินดูและเชนหลายแห่ง รวมถึงมัสยิด เมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ดึงดูด ซึ่งสร้างจากกำแพงป้อมและตลาดที่คึกคัก เมืองที่ไม่ยอมปล่อยให้เมืองเก่าที่มีเสน่ห์หายไป เป็นที่ตั้งของ havelis ที่สวยงาม สัญลักษณ์เดียวที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองปาตันคือบ่อน้ำรูปบันได
นำท่านชมบ่อน้ำรูปบันได ที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์นี้ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำสรัสวดี บ่อน้ำรูปบันไดแห่งนี้เป็นหนึ่งในบ่อน้ำรูปบันไดที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในรัฐคุชราต และได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี บันไดทอดยาวลงมาหลายชั้น มีเสาแกะสลักเรียงราย และประติมากรรมมากกว่า 800 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นรูปอวตารของพระวิษณุ รวมถึงลวดลายเรขาคณิตที่สะดุดตา บ่อน้ำรูปบันไดนี้มีลักษณะเป็นวิหารคว่ำ แสดงให้เห็นถึงฝีมืออันยอดเยี่ยมของยุคนั้น และรูปแบบสถาปัตยกรรม Maru-Gurjara ที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่ประดิษฐานประติมากรรมที่คล้ายกับวิหารวิมานลาวาสวี บนภูเขาอาบู(แคว้นราชาสถาน) วิหารที่มีการแกะสลักวิจิตรงดงาม บ่อน้ำแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของ UNESCO ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
เดินทางต่อสู่ เมืองโมดเหรา ในเขตเมืองโมดเหราเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆในรัฐคุชราต เมืองนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ Dharmaranya สถานที่ปฏิบัติธรรมและใช้ประกอบพิธีกรรมธรรมในยุคปุราณะ เชื่อกันว่าพระรามทรงทำพิธียัญชลีที่นี่เพื่อชำระบาปจากการสังหารทศกัณฐ์พราหมณ์ พระองค์ทรงสร้างวัดแห่งนี้ซึ่งต่อมาเรียกว่า วัดดวงอาทิตย์โมดเหราอันเลื่องชื่อตั้งอยู่ริมแม่น้ำพุชปาวาตี ล้อมรอบด้วยสวนต้นไม้ดอกไม้และเสียงนกร้องซึ่งอุทิศให้กับเทพสุริยัน หรือเทพแห่งดวงอาทิตย์เป็นเทพสูงสุดบนท้องฟ้า เหนือธรรมชาติที่มีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์ถือเป็นพลังและพลังงานหลักในวัฏจักรชีวิต การเดินเล่นรอบๆ บริเวณวัดอันเงียบสงบจะทำให้คุณรับรู้ถึงรัศมีแห่งพลังงานอันแข็งแกร่งที่แผ่กระจายออกมา และนำคุณเข้าใกล้สภาพแวดล้อมมากขึ้น ในกลุ่มอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีเทพเจ้า 108 องค์ ซึ่งอุทิศให้กับพระพิฆเนศและพระวิษณุ และรูปเคารพของพระอิศวรที่กำลังร่ายรำ "ตันดวะ" วัดได้รับการออกแบบในลักษณะที่แสงอาทิตย์แรกของวันทอดตรงเหนือรูปพระเทพสุริยะ ด้วยซุ้มประตูที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรบรรจงและผนังด้านนอกที่สวยงาม วัดนี้จึงเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมในสมัยนั้น ทุกตารางของวัดปกคลุมด้วยเทพเจ้าและเทพธิดา
// ได้เวลาเดินทางกลับสู่เมืองอาห์เมดาบัด
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม...........................ระดับ 4*ภายในเมืองอาห์เมดาบัด
วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2568 อาห์เมดาบัด - วาโดดารา
07.00 รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์ คืนนี้เปลี่ยนที่นอนไปนอนที่เมืองวาโดดารา ใช้เวลาเดินทางประมาณ2.30ชั่วโมง
นำท่านเที่ยวชม เมืองอาห์เมดาบัด เมืองอาห์เมดาบัด ก่อตั้งโดยสุลต่านอาห์หมัดชาร์ ในปี ค.ศ.1411 โดยเติบโตอย่างมั่งคั่งและสง่างามเป็นเวลาหลายปีและกลายเป็นศูนย์กลางของช่างฝีมือและพ่อค้าผู้มีทักษะ อนุสรณ์สถานโบราณในและรอบๆ เมือง เมืองอาห์เมดาบัดอาจแบ่งออกได้เป็น 2 ยุคหลัก ยุคแรกในสมัยอาหมัด ชาห์ 1 นับได้ถึงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 15 ยุคที่สอง สมัยมาห์มุด เบกาดา นับได้ถึง ครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 15
นำท่านสัมผัสความรุ่งโรจน์ของเมืองเก่าอาห์เมดาบาด โดยเดินผ่านย่านเมืองเก่าล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรม ศิลปะ สถานที่ทางศาสนา วัฒนธรรมและประเพณีอย่างแท้จริง
นำท่านออกเดินทางเท้า โดยเริ่มต้นจากการไหว้พระขอพรที่วัดสวามินารายันเป็นนิกายฮินดูที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮินดู เป็นวัดที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาชื่นชมความงามอันประณีตของการแกะสลักและสัมผัสกับบรรยากาศอันวิจิตรงดงามของวัด การเดินชมย่านเก่าแก่มรดกทางวัฒนธรรมของคุชราตจะเริ่มต้นจากวัดที่มีชื่อเสียงแห่งนี้
นำท่านเดินเข้าสู่เมืองเก่าที่เรียกว่า โพล POLS มีอีกชื่อหนึ่งว่าเส้นทางเดินมรดกแห่งอาห์เมดาบัด จากอารามสู่มัสยิด ครอบคลุมทั้งเสา วัดฮินดูและเชน และอาคารไม้แกะสลักแบบคลาสสิก การเริ่มต้นเดิน ด้วยการเดินผ่าน Pols ในเมืองเก่า (โดยทั่วไปคืออาณานิคมของบ้านติดกันของคุชราต): ย่านเล็กๆ เหล่านี้เป็นทั้งกระดูกสันหลังและหัวใจของรัฐคุชราต แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ครอบครัวต่างๆ ได้เริ่มย้ายออกไปอาศัยอยู่ในบ้านที่ทันสมัยมากขึ้นซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองมากขึ้น แต่หลายๆ ครอบครัวยังคงรู้สึกผูกพันกับชุมชนที่แน่นแฟ้นของโพลซึ่งหล่อหลอมชีวิตของพวกเขาในขณะที่เติบโตขึ้น หลายแห่งมีวัดของตนเองที่ใจกลางย่าน มีศาลเจ้าเล็กๆ หนึ่งแห่งหรือมากกว่านั้นสำหรับทุกศาสนาและอีกหลายโพล เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมแบบครอบครัวกระท่อม
ดังนั้น จะเห็นได้ว่ามีผู้คนนั่งอยู่บนขั้นบันไดเย็บหนังสือด้วยมือหรือจับจีบโซ่เงินด้วยกันสำหรับเครื่องประดับแบบดั้งเดิมและงานฝีมืออื่น ๆ ที่ทำให้ผู้คนสามารถเพิ่มอาชีพได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน จึงสร้าง ชุมชนที่มีชีวิตชีวา มีเสาเอกลักษณ์ให้อาหารนกในแต่ละโพลที่เรียกว่า chabutro ซึ่งเป็นเสาสูงที่ชาวอาห์เมดาบัดสร้างขึ้นสำหรับนกเพื่อทดแทนต้นไม้ที่ถูกตัดลงเมื่อพวกเขาสร้างเมือง และรอยแยกที่พวกเขาสร้างขึ้นเป็นกำแพงเพื่อให้นกใช้เป็นบ้าน แสดงให้เห็นถึง ความห่วงใยอันอบอุ่นใจต่อชีวิตของนก ที่ไม่ใช่มนุษย์ เมืองที่มีกำแพงล้อมรอบนี้สร้างขึ้นก่อนยานยนต์ ซึ่งเหมาะสำหรับคนเดินถนนและจักรยาน ดังนั้นจึงควรเดินสำรวจตามถนนเล็กๆ ที่มีลมแรง เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของมรดกที่มีอนุสรณ์สถานอิสลามที่ดีที่สุด วัดฮินดูและเชน เมืองเก่าอายุกว่า 600 ปีสร้างความภาคภูมิใจผ่านสถาปัตยกรรมไม้แกะสลัก ตรอกซอกซอยแคบ ตลาดที่วุ่นวาย และการใช้ชีวิต ความสามัคคีและความสงบสุขภายในย่านโพลเก่าแก่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
การเดินทางท่านจะได้ชม อาศรมที่พัก Sabarmati Ashram ซึ่งเป็นที่พำนักของคานธีในช่วงหลายปีของการจลาจลของอินเดียกับอังกฤษ
จากนั้นชม มัสยิดแห่งเมืองอาห์เมดาบัด สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1425 โดยสุลต่านอาห์เมต ด้วยหินทรายสีเหลือง โครงสร้างของมัสยิดออกแบบให้มีห้องโถงกลางขนาดใหญ่ และมีการแกะสลักรูปดอกบัวตรงกลางด้านในมัสยิด ถูกแบ่งออกเป็นโซนที่เก็บหลุมพระศพสุลต่านองค์สุดท้าย โดยมัสยิดแห่งนี้อยู่หน้าต่างหินบานแกะสลักทรงครึ่งวงกลม จำนวน10บาท โดยเฉพาะบานที่แกะสลัก “ต้นไม้แห่งชีวิต” ช่างได้ฉลุแผ่นหินเป็นรูปต้นปาล์มแผ่กิ่งก้านสาขาเป็นเส้นโค้ง ละเอียดอ่อนช้อยในสไตล์อินโด ซาราเซนิก ความอ่อนช้อยของหน้าต่าง ถูกนำไปเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอาห์เมดาบัด
จากนั้น ชมวัดหัตถีสิงห์ ศาสนาเชน ที่มีการแกะสลักวัดด้วยหินอ่อนสีขาวงดงามราวจิตบรรจง สร้างโดยพ่อค้าเชน ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเพื่ออุทิศแด่ Jain Tirthankaraที่ 15. ผลงานการสร้างแต่ละส่วนมีความหลากหลายโดยมีเสาหรูหรา12เสาค้ำยัน การแกะสลักยอดแหลมสามยอดและล้อมรอบด้วยศาลเจ้า52แห่งที่อุทิศมีเฉลียงที่ยื่นออกมาพร้อมหอคอยที่มีการแกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองวาโดดารา หรือ บาโรดา ประมาณ2.30ชั่วโมง เป็นเมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ในคุชราต เป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมอันเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุด วาโดดาราเป็นอนุสรณ์สถานที่เหมาะสมสำหรับผู้นำชาวมราฐะ Sayaji Rao Gaekwad III ซึ่งได้จินตนาการถึงความฝันที่จะสร้างเมืองใหญ่แห่งนี้ให้เป็นศูนย์กลางการศึกษา อุตสาหกรรม และการค้า วาโดดาราเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของรัฐคุชราตซึ่งเป็นที่รู้จักจากพระราชวังที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดีย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่นภายในเมืองวาโดดารา
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม..........................ระดับ4ดาวภายในเมืองวาโดารา
วันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2568 อาห์เมดาบัด – วาโดดารา - โบราณสถานจัมปาเนอร์ - สนามบินอาห์เมดาบัด
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ พร้อมเช็คเอ้าท์
ออกเดินทางสู่เมืองจัมปาเนอร์ ประมาณ1ชั่วโมง
นำท่านเดินทางสู่อุทยานโบราณคดีจัมปาเนอร์ Champaner เป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ตั้งอยู่ในเขตปานมาฮาลในคุชราต ประเทศอินเดีย อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่รอบเมืองประวัติศาสตร์ เมืองที่ก่อตั้งโดย Vanraj Chavda กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ Chavda ในศตวรรษที่ 8
เมืองที่เต็มไปด้วยไปด้วยป้อมปราการ ทิวทัศน์ของอุทยานประกอบด้วยอนุสรณ์สถานทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ และมรดกทางวัฒนธรรมที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่น แหล่งโบราณคดียุคหินใหม่ ป้อมปราการบนเนินเขาของเมืองหลวงฮินดูยุคแรก
และซากเมืองหลวงของรัฐคุชราตในศตวรรษที่ 16 มีทั้งพระราชวัง ประตูทางเข้าและซุ้มโค้ง มัสยิด สุสานและวัด อาคารที่พักอาศัย โครงสร้างทางการเกษตร และสิ่งก่อสร้างทางน้ำ เช่น บ่อน้ำแบบขั้นบันไดและอ่างเก็บน้ำ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ถึงศตวรรษที่ 14
ได้เวลาเดินทางกลับเมืองวาโดดารา
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านชมเมืองวาโดดารา ได้แก่ พระราชวัง Lakshmi Vilas และอนุสรณ์สถานในตำนานอีกมากมาย โดยมีพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ถูกครอบครองโดยชาวคุชราต ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ต้องการมากที่สุดในช่วง 9 วันของเทศกาลนวราตรี ไม่มีเมืองใดในอินเดียที่เฉลิมฉลองเทศกาลนวราตรีด้วยความกระตือรือร้นและรื่นเริงเท่ากับวาโดดารา เมืองนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของอินเดีย นั่นคือ มหาวิทยาลัย Maharaja Sayajirao นำท่านชมพระราชวังลักษมีวิลาส จัดได้ว่าเป็นพระราชวังที่งดงามที่สุดของอินเดีย สร้างตามสถาปัตยกรรมแบบอินโดซาราแซนิค เป็นสถานที่สำคัญของรัฐคุชราต จากนั้นชมพิพิธภัณฑ์ฟาร์เตสิงห์ เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งรัฐที่รวบรวมศิลปะและของใช้ในยุคมหาราชาแห่งวาโดดารา ทั้งจากยุโรป จีนและญี่ปุ่น
16.30 ได้เวลาเดินทางกลับสู่เมืองอาห์เมดาบัด ประมาณ2.30ชั่วโมง
19.00 รับประทานอาหารเย็นภายในโรงแรมฯ
21.00 ได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินอาห์เมดาบัดเพื่อบินกลับสู่กรุงเทพฯ
วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2568 อาห์เมดาบัด – สุวรรณภูมิ
01.05 เครื่องบินออกเดินทางโดย TG334
06.50 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ
1.บินภายใน2เที่ยวบินจาก: มุมไบ-ออรังกาบัด-มุมไบ ได้น้ำหนัก15กิโลกรัมต่อท่านต่อเที่ยว
2.บินภายใน1เที่ยวบินจาก: มุมไบ-อาห์เมดาบัด ได้น้ำหนัก15กิโลกรัมต่อท่าน
3.กรณีไม่เอาตั๋วเครื่องบินเฉพาะ TG หักท่านละ13,000บาท
4.ถ้าจำนวนลูกค้าน้อยหัวหน้าทัวร์ จะไม่ได้พักโรงแรมเดียวกับลูกค้า
**************
1. ส่งสำเนาหนังสือเดินทาง พร้อมชำระเงินมัดจำท่านละ 35,000 บาท
2. ชำระเงินค่าทัวร์ส่วนที่เหลือก่อนการเดินทางประมาณ 30 วันทำการ
(หนังสือเดินทางต้องมีวันหมดอายุมากกว่า 6 เดือน เหลือหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า)
กรณียกเลิก
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า) (สงกรานต์-วันปิยะ-ปีใหม่ก่อน 45 วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน หักค่ามัดจำ 20,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี) (สงกรานต์-วันปิยะ-ปีใหม่ก่อน 30 วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง น้อยกว่า 20 วัน หักค่าใช้จ่าย 50-75% ของค่าทัวร์ (สงกรานต์-วันปิยะ-ปีใหม่ก่อน 15 วัน)
*** กรณีลูกค้าใช้ราคาตั๋วโปรโมชั่น ไม่สามารถคืนเงินได้ กรณียกเลิกการเดินทาง กรณีออกตั๋วแล้วบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์คืนเงินมัดจำ***
1.ตั๋วเครื่องบินสายการบินไทยชั้นประหยัด น้ำหนัก 25 กิโลกรัม และตั๋วเครื่องบินภายในประเทศอินเดีย น้ำหนัก 15 กิโลกรัมต่อท่านต่อเที่ยว
2.โรงแรมรวมที่พักระดับ 4 ดาว รวม 7 คืน
3.อาหารทุกมื้อ, ค่าน้ำดื่มบนรถบัส
4.ค่าเข้าชม ตามที่ระบุในรายการทัวร์ กรณีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งไหนปิดไม่สามารถเข้าชมได้บริษัทฯ จะพาไปเข้าชมอย่างอื่นแทนหรือคืนค่าเข้าชมให้ท่าน
5.หัวหน้าทัวร์ไทยนำจากกรุงเทพฯ
6.ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทาง และค่ารักษาพยาบาล เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ ประกัน // กรณีอายุเกิน 85 ปี จะทำได้เฉพาะประกันอุบัติเหตุเท่านั้น
*เงื่อนไขการเอาประกัน และการคุ้มครองประกันการเดินทาง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทฯประกันภัย ตามกรมธรรม์เท่านั้น*
1.ค่าน้ำหนักกระเป๋ากรณีโหลดTGเกิน 25 กิโลกรัม และบินภายในอินดิโก้ 15กิโลกรัมต่อท่านต่อเที่ยว
2.ค่าเครื่องดื่มสั่งพิเศษ,ค่าอาหารพิเศษและค่าโทรศัพท์ฯ
3.ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทยตามความพึงพอใจ
4.ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น และคนขับท้องถิ่น รวม 40 ดอลล่าร์ตลอดทริป
5.ค่าซื้อเก้าอี้กรณีต้องการระบุบนที่นั่งบนเครื่องบิน
6.ค่ากล้องวีดีโอ และค่ากล้องถ่ายรูปทุกชนิด
7.การบริการยกกระเป๋าเป็นการบริการเสริมเพิ่มเติม ทั้งนี้บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบกรณีกระเป๋าแตก ขีดข่วน หู้หิ้วหลุด เช่น กรณีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ยกขึ้นสายพานของแอร์ไลน์ หรือกรณีเจ้าหน้าที่โรงแรมยกเข้าออกโรงแรมหรือคนขับรถยกขึ้นรถบัสหรือยกเข้าออกเรือที่พักบนเรือ และทำให้กระเป๋าเกิดความเสียหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบใดๆให้ท่านได้ เพื่อความสบายใจกรณีลูกค้ากังวลเรื่องกระเป๋ากรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆเพื่อลูกค้าจะได้ยกกระเป๋าท่านเอง
8.กรณีกระเป๋าสูญหายระหว่างทัวร์ บริษัทฯ ขอคืนกิโลกรัมละ 15USD ตามน้ำหนักเอกสารแอร์ไลน์ที่ท่านเช็คอินท์จากกรุงเทพฯ มา
9.กรณีแอร์ไลน์เปลี่ยนแปลงแจ้งเวลาบินกระทันหัน หรือ เที่ยวบินดีเลย์ บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบตั๋วเครื่องบินๆภายในประเทศให้ท่านได้
10.กรณีขอที่นั่งพิเศษ บริษัทฯ จะทำการรีเควสร้องขอแอร์ไลน์ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่ยืนยันจะได้ตามที่ขอหรือไม่ขึ้นอยู่กับแอร์ไลน์ดำเนินการ
11.ค่าเข้าห้องน้ำ สำหรับห้องน้ำเอกชนกรณีบางสถานที่เรียกเก็บ รบกวนชำระตรงผู้ให้บริการ
1.บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง ห้ามผู้เดินทาง เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือสิ่งของห้ามนำเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ ความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือ ด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว ทางบริษัทฯ ไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ ไม่ว่าจำนวนทั้งหมด หรือ บางส่วน
2.บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายใดๆที่อาจเพิ่มขึ้น เช่น อาหาร โรงแรม ค่าเปลี่ยนตั๋วเครื่องบินภายในประเทศไทย ในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย อาทิ เกิดการล่าช้าของสายการบิน เปลี่ยนแปลงเวลาของสายการบิน และยกเลิกเที่ยวบินจากสายการบิน ,อุบัติเหตุร้ายแรงตามธรรมชาติต่างๆ , การนัดหยุดงาน , ปัญหาทางการเมือง , การจลาจล , การโจรกรรม , และสิ่งของสูญหายตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นเหตุอันเกิดขึ้นเหนือการควบคุมของบริษัท
3.บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงรายการทัวร์, กำหนดวันเดินทาง,สายการบิน, และราคาทัวร์ ตามความเหมาะสม และความจำเป็นที่เกิดขึ้น โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
4.คณะผู้จัดการเดินทางจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากผู้เดินทางถูกปฏิเสธการเข้า – ออกเมือง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าออกเมืองเป็นสำคัญ
5.ยกเลิกการเดินทางทุกกรณีหรือไม่เดินทางพร้อมคณะ บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเป็นลักษณะของการเหมาจ่ายแบบหมู่คณะ ไม่สามารถแยกคืนได้
7.สำหรับรายการทัวร์ที่เป็นการชมความงามธรรมชาติ บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบความสวยงามได้ แต่ละวันเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวอาจมีความสวยงามแตกต่างกันไป ช่วงเวลา ฤดูกาล สภาพอากาศ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่สามารถควบคุมได้
8.การขอที่นั่งพิเศษ เช่น ริมทางเดิน ริมหน้าต่าง เป็นการจัดที่นั่งของสายการบิน บริษัทฯ ไม่การันตีและไม่สามารถรับผิดชอบ กรณีไม่ได้ที่นั่งตามที่ลูกค้าต้องการ เนื่องจากเป็นการจัดการของสายการบิน บริษัทฯไม่สามารถแทรกแซงได้
9.บริษัทฯ ไม่มีของแถมเช่นกระเป๋า,หมวก
10.เอกสารการยื่นวีซ่าแบบออนไลน์รบกวนขอให้ท่านใช้วิธีสแกนส่งไลน์หรือส่งอีเมล์แทนเพื่อความสะดวกรวดเร็ว กรณีที่ท่านไม่สะดวกในการสแกน รบกวนช่วยส่งไปรษณีย์ บริษัทฯ จะนำพาสปอร์ตคืนให้ท่านในวันเช็คอินท์ที่สนามบิน
*การขอที่นั่งพิเศษบนเครื่องบิน เช่น ริมทางเดิน ริมหน้าต่าง บริษัทฯ ไม่การันตี และไม่สามารถรับผิดชอบ กรณีไม่ได้ที่นั่งตรงตามลูกค้าต้องการได้ เนื่องจากเป็นการจัดการของสายการบิน บริษัทฯ ไม่สามารถแทรกแซงได้
**กรณีลูกค้าใช้ตั๋วเครื่องบินกับบริษัทฯ จะเป็นตั๋วหมู่คณะ ตั๋วโปรโมชั่นพิเศษ การจัดที่นั่งจะเป็นโซนกรุ๊ปจะอยู่ช่วงท้ายลำของเครื่องบิน สายการบินเป็นผู้จัดที่นั่งให้ บริษัทฯ จะทำการรีเควส สายการบินตามที่ลูกค้าต้องการ แต่ไม่สามารถการันตีที่นั่งได้ เนื่องจากหลายสายการบินแยกขายที่นั่งเพิ่มจากราคาตั๋วเครื่องบิน หากลูกค้าต้องการนั่งแถวหน้าๆ หรือหน้าสุด จำเป็นต้องซื้อที่นั่งเพิ่ม หรือใช้ตั๋วเครื่องบินเดี่ยวแทนตั๋วกรุ๊ป ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่รวมในค่าทัวร์ *ราคาที่นั่งจะสามารถซื้อได้หลังจากการออกตั๋วเครื่องบินแล้ว หลังจากซื้อที่นั่งแล้วจะไม่สามารถยกเลิก หรือขอคืนเงินได้ ราคาที่นั่งจะทราบ ณ วันที่เช็คราคากับทางสายการบินแต่ละวัน
*ช่วงเวลาต่อเครื่องบินระหว่างประเทศ และในประเทศ ลูกค้าต้องตรวจสอบเวลาเรียกขึ้นเครื่องให้ถูกต้อง เนื่องจากสายการบินไม่มีประกาศการเรียกขึ้นเครื่อง หากลูกค้าตกเครื่อง ขึ้นเครื่องไม่ทัน ลูกค้าต้องชำระการซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่เอง บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบในส่วนนี้
*สำหรับท่านที่จะออกตั๋วภายในประเทศ ซื้อตั๋วเครื่องบินเอง เป็นดุลยพินิจของลูกค้า กรณีแอร์ไลน์ยกเลิกบิน หรือเปลี่ยนเวลาบิน บริษัทฯ ขออนุญาตไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เนื่องจากอยู่เหนือความควบคุมของบริษัทฯ และก่อนออกตั๋วเครื่องบินต้องได้รับคำยืนยันจากบริษัทว่ากรุ๊ปยืนยันเดินทางแล้วแน่นอนแล้ว บริษัทฯแนะนำ ควรออกตั๋วภายในประเทศให้ช้าที่สุด
*การบริการยกกระเป๋า ที่สนามบิน โรงแรม เรือ หรือรถบัส ..เป็นการบริการที่บริษัทฯ ยินดีให้บริการลูกค้าและไม่ได้บวกรวมค่ากระเป๋าเสียหาย ลงในค่าทัวร์ ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆ ก็ตามกรณีค่ากระเป๋าเสื่อมสภาพ แตกหัก หูหิ้วหลุด จากการยกขึ้นสายพาน หรือยกเข้าโรงแรมหรือเข้าเรือ หรือยกลงจากรถบัส หรือ เป็นรอยขีดข่วน ดังนั้น กรณีที่ท่านยอมรับความเสียหายได้ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานเพื่อยกให้ท่าน บริษัทฯ ยินดีให้บริการแต่กรณีที่ท่านจะยกเอง รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานก่อนการซื้อขายทัวร์... เพื่อจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ท่านยกกระเป๋าท่านเองทุกๆสถานที่ ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายใดๆได้
*กรณีที่ท่านแพ้อาหาร แพ้ส่วนผสมต่างๆ เช่นพริกไทย ผงชูรส แพ้ถั่ว แพ้แป้งสาลี หรือต้องการอาหารพิเศษ และจำเป็นต้องทานซีฟู้ดทุกมื้อที่มีกุ้ง หอย ปู หรือปลา หรือทานเนื้อไก่ไม่ได้ หรือทานเนื้อวัว เนื้อแพะไม่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯจะพยายามจัดหาและแจ้งร้านอาหารก่อนการเดินทางทุกครั้ง กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถจัดหาได้ หรือถ้าจัดแล้วอาจจะต้องเป็นเมนูซ้ำๆ บริษัทฯ ขออนุญาตจัดเป็นสลัดผักท้องถิ่น ไข่ต้มหรือไข่เจียว หรืออาหารท้องถิ่นแบบไม่มีเนื้อสัตว์แทน
*กรณีลูกค้าที่เดินทางไปร่วมกับคณะในต่างประเทศหรือลูกค้าที่ไม่ได้เดินทางไป-กลับพร้อมคณะ เช่นเดินทางไปก่อน หรือยู่ต่อ ไม่กลับพร้อมคณะ ขอให้ลูกค้าทำประกันการเดินทางของท่านเอง เนื่องจากบริษัทฯ ทำประกันการเดินทางแบบหมู่คณะที่เดินทางไปกลับพร้อมคณะเท่านั้นและประกันเฉพาะอุบัติเหตุเท่านั้นไม่รวมสุขภาพ,ไม่รวมโควิด,ไม่รวมโรคประจำตัว,ไม่รวมภัยสงครามหรือภัยจากก่อการร้าย
*ที่นั่งบนรถบัส บริษัทฯขอความร่วมมือให้ลูกค้านั่งด้านหน้ารถบัสให้ครบทุกเบาะก่อน เพื่อให้ทุกท่านได้นั่งเบาะปกติก่อน และขอสงวนสิทธิ์แถวหน้าสุดสำหรับไกด์ และหัวหน้าทัวร์ เพื่อเป็นพื้นที่ประสานงาน ดังนั้นขอเก้าอี้แถวด้านหน้า ขอเป็นที่นั่งสำหรับที่นั่ง 1 ท่าน/เบาะที่นั่ง เนื่องจากเส้นทางระยะไกล เบาะที่นั่งแถวหลังอาจเกิดการเมารถและไม่สบายกับผู้ที่นั่งหลังๆได้
*บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ โรงแรมที่พัก ก่อนเดินทาง และหลังจบทริป ทุกกรณี เนื่องจากอยู่นอกเหนือจากโปรแกรมทัวร์ และเกิดจากเหตุผลที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ เช่น สายการบินล่าช้า สายการบินยกเลิก สายการบินเปลี่ยนเวลาบิน เหตุสุดวิสัยภัยทางธรรมชาติ เหตุสงคราม การจราจล เป็นต้น
*************