8 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแม่น้ำไนล์
เชื่อว่าชื่อของแม่น้ำไนล์นันเป็นชื่อที่คุ้นหูใครหลายคน เนื่องด้วยเป็นหนึ่งในแม่น้ำสายหลักที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ไม่เพียงเท่านั้น แม่น้ำไนล์ยังเป็นบ่อเกิดของแหล่งอารยธรรมโลกที่สำคัญ 1 ใน 4 แห่งด้วย วันนี้เรามาทำความรู้จักแม่น้ำไนล์กันแบบใกล้ชิดกันเถอะ
1. แม่น้ำไนล์ที่ยาวที่สุดในโลกจริงไหม
แท้จริงแล้วจะเรียกว่าแม่น้ำไนล์นั้นเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลกก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปากเนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ทำให้การดำเนินการด้านการวัดทำแผนที่นั้นก้าวหน้ากว่าในสมัยก่อนอย่างมาก ในปัจจุบันความยาวของแม่น้ำไนล์อยู่ที่ 6,692 กิโลเมตร ส่วนแม่น้ำอเมซอนนั้นมีข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กล่าวคือ เมื่อปี ค.ศ. 2007 อยู่ที่ 6,400 กิโลเมตร แต่จากการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมในการสำรวจ พบว่ามีจุดกำเนิดของแม่น้ำลึกเข้าไปทางตอนใต้ของประเทศเปรูเพิ่มอีก อีกทั้งยังมีการวัดความยาวไปยังจุดปากแม่น้ำได้หลายแบบเมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว แม่น้ำอเมซอนจึงมีความยาวสูงสุดที่ 7,062 กิโลเมตร แต่ยังเป็นที่ถกเถียงว่าจะวัดความยาวของสาขาแม่น้ำที่ไหลลงทะเลอย่างไร ดังนั้นจึงสรุปอย่างคร่าวๆ ว่าแม่น้ำอเมซอนมีความยาวอยู่ระหว่าง 6,275-7,062 กิโลเมตร ดังนั้น การจะกล่าวว่าแม่น้ำไนล์ยาวที่สุดในโลกจึงไม่ใช่เรื่องผิด หรือจะกล่าวว่าแม่น้ำไนล์ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกก็ไม่ผิดอีกเช่นกัน
2. แม่น้ำไนล์ไหลจากใต้ขึ้นเหนือ
ในทางธรณีวิทยานั้นคาดว่าแม่น้ำไนล์มีอายุราว 30 ล้านปีมาแล้ว มีฉายาว่าเป็นบิดาแห่งแอฟริกา ตั้งอยู่บริเวณใต้เส้นศูนย์สูตรและไหลขึ้นไปยังทิศคะวันออกเฉียงเหนือกระทั่งมาบรรจบกับทะเลเมดิเตอร์เนียนที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา เกิดจากการรวมตัวของ 2 แม่น้ำคือ ไวท์ไนล์ ซึ่งมาจากทะเลสาบวิกตอเรีย ในประเทศยูกันดา แทนซาเนียและเคนยา ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้จัดว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก มีพื้นที่ราว 43,000 ตารางกิโลเมตร รวมตัวกับบลูไนล์ ต้นกำเนิดมาจากประเทศเอธิโอเปียและไหลเข้าไปในซูดาน
แม่น้ำไนล์เดินทางผ่าน 11 ประเทศด้วยกัน คือ คองโก, แทนซาเนีย, บุรุนดี, รวันดา, ยูกันดา, เคนยา, เอธิโอเปีย, เอริเทรีย, ซูดานใต้, ซูดาน และอียิปต์ เมื่อดูตามแผนที่แล้วจะเห็นได้ว่ามีการไหลจากทางตอนใต้ขึ้นเหนือ ซึ่งนับว่าพิเศษกว่าแม่น้ำสำคัญอื่น ๆ ซึ่งโดยมากไหลจากเหนือลงใต้
3. แม่น้ำไนล์แหล่งอารยธรรมโลก
หากเราจะย้อนไปถึงการศึกษาแหล่งอารยธรรมสำคัญที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลกนั้น ก็มีอยู่ 4 แห่งด้วยกัน และอารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ก็เป็น 1 ในนั้น อีก 3 แห่งก็คือ อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ ในอินเดีย, อารยธรรมลุ่มแม่น้ำแยงซี ในจีน และอารยธรรมลุ่มแม่น้ำไทรกีสยูเฟรทีส ในอิรัก
สำหรับแม่น้ำไนล์นั้นครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 ใน 10 ของทวีปแอฟริกา ทำหน้าที่สำคัญในการให้ชีวิตดำรงอยู่ต่อไปได้ และเมื่อมีน้ำก็คือมีชีวิต เมื่อมีชีวิต การวิวัฒนาการในด้านต่าง ๆ ก็เริ่มต้นขึ้น เกิดการรวมตัวกันกลายเป็นชุมชน เกิดการเพาะปลูกตามพื้นที่อุดมสมบูรณ์ริมน้ำ เลี้ยงสัตว์ เกิดระบบสังคม จนกระทั่งกลายเป็นระบบการปกครองที่สลับซับซ้อนและเกิดการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่างๆ เพื่อให้ชีวิตนั้นสะดวกสบายมากขึ้น
รวมถึงพัฒนาการทางด้านศิลปะ การเดินเรือ ติดต่อค้าขาย เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นสู่ความยิ่งใหญ่ในเวลาต่อ ดังคำกล่าวของเฮโรโดตัส นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกที่ว่า อียิปต์คือของขวัญของแม่น้ำไนล์ เพราะพื้นที่ทะเลทรายนั้นยากที่มนุษย์จะดำรงอยู่ได้ แต่แม่น้ำไนล์ทำให้อียิปต์สร้างอารยธรรมขึ้นมาเป็นแห่งแรกๆ ของโลก
4. แม่น้ำไนล์กับสภาพอากาศ
เรียกได้ว่าเป็นบริเวณที่มีอากาศไม่เหมือนกับแถบบริเวณเส้นศูนย์สูตรหรืออากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนแต่อย่างใด เนื่องจากในซูดานและอียิปต์จะไม่มีฝนตกเลย ยกเว้นเมืองอเล็กซานเดรียซึ่งเป็นเมืองสุดท้ายก่อนไหลลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเท่านั้นที่พอจะมีฝนอยู่บ้างในช่วงฤดูหนาว แต่จลอดทั้งปีนั้นแทบไม่มีฝนเลย
แต่ที่ราบสูงทางตอนใต้แถบเอธิโอเปียนั้นจะมีช่วงฝนตกหนัก และมีช่วงที่เกิดความแห้งแล้งเป็นส่วนใหญ่ปีกล่าวคือช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่แห้งแล้งหนัก
5. จระเข้และสัตว์ต่างๆ ในแม่น้ำไนล์
เดิมทีจระเข้เป็นสัตว์ดั้งเดิมที่ประจำอยู่ยังบริเวณแม่น้ำแห่งนี้ แต่ปัจจุบันในอียิปต์มีการจับจระเข้ทุกตัวไปไว้ที่เหนือเขื่อน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนใต้สุดของประเทศ และเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีผู้คนอยู่อาศัย นอกจากจระเข้แล้วแม่น้ำไนล์ยังเป็นบ้านของเต่ากระดิงนิ่ม กิ่งก่า และงูมากกว่า 30 สายพันธ์ ซึ่งเกินครึ่งนั้นมีพิษ และฮิโปโปเตมัส ซึ่งในสมัยก่อนสามารถพบเจอได้ทั่วไปในแม่น้ำไนล์แต่ในปัจจุบันมีอยู่บริเวณซูดานใต้เท่านั้น
6. พืชพันธุ์ต่างๆ
บริเวณคองโกและตะวันตกเฉียงใต้ของเอธิโอเปีย จะเป็นป่าฝนเขตร้อน ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมากทำให้เกิดป่าทึบ มีต้นไม้เมืองร้อน เช่น ไม้มะเกลือ กล้วย ยางพารา ไม้ไผ่ ส่วนที่ราบสูงทะเลสาบของเอธิโอเปีย จะพบต้นไม้ใบบางสูงระดับปานกลาง และพืชสมุนไพรยืนต้น แบบป่าผสมทุ่งหญ้า(สะวันนา) ส่วนที่ราบซูดานจะเป็นต้นไม้มีพุ่ม ต้นไม้หนาวและทุ่งหญ้าปะปนกันไป ส่วนในอียิปต์มีการเพาะปลูกริมแม่น้ำไนล์ โดยอาศัยช่วงฤดูกาลหลังจากฤดูน้ำหลากที่ดำตะกอนริมฝั่งแม่น้ำจะมีความอุดมสมบูรณ์ทำให้เพาะปลูกได้ง่าย
7. ปาปิรุส ต้นกกแม่น้ำไนล์ ที่กลายเป็นกระดาษครั้งแรกในโลก บริเวณพื้นที่ที่เป็นหนองน้ำริมฝั่งแม่น้ำไนล์จะมีต้นกกเป็นพรรณไม้ท้องถิ่น ซึ่งชาวอียิปต์โบราณนำมาผ่านกระบวนการกลายเป็นการทำกระดาษขึ้นครั้งแรกๆ ในโลก
โดยปาปิรุสจะมีลำต้นเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายปิรามิด มีใบที่แผ่ออกคล้ายกับการส่องแสงของดวงอาทิตย์หรือเทพราห์ เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ซึ่งก็คือทุกสิ่งทุกอย่างตามความเชื่อของคนอียิตป์โบราณ การทำกระดาษมีวิธีการไม่ยุ่งยากนัก นำต้นกกมาปลอกเปลือกออกแล้วแล่เนื้อในออกเป็นแผ่นบางๆ จากนั้นนำแผ่นเนื้อในนี้มาวางสานกันเป็นลายตาราง คล้ายกับการสานพัดด้วยใบจากมะพร้าวของไทย
จากนั้นนำหินหนักๆ มาทับไว้แล้วปล่อยให้แห้ง เนื้อเยื่อเหนียวๆ ของต้นกกจะค่อยๆ แห้งลงแล้วยึดเกาะกันกลายเป็นแผ่นกระดาษ โดยที่หาก้อนหินที่หนักๆ มาทับไว้ เมื่อปล่อยให้แห้ง ก็จะได้กระดาษที่ยึดติดกันที่แข็งแรงขยำได้ไม่เสียหาย
และทนทานเป็นอย่างมากขนาดที่ยังมีปาปิรุสโบราณอายุมากกว่าสามพันปีจำนวนมากที่ยังมีสภาพสมบูรณ์เป็นมรดกตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
8. เขื่อนแม่น้ำไนล์
ตลอด 50 ปีที่ผ่านมานี้มีการก่อสร้างเขื่อนเพื่อปั่นไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำไนล์รวม 25 แห่ง และกำลังก่อสร้างอีก 4 แห่ง แต่เขื่อนที่ใหญ่ที่สุดนั้นคือเขื่อนยักษ์อัสวาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอียิปต์ ซึ่งถือว่าเป็นประเทศสุดท้ายก่อนแม่น้ำไนล์จะไหลลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เปิดใช้งานเมื่อ ค.ศ.1970 สูง 111 เมตร กว้าง 3,830 เมตร
การสร้างเขื่อนทำให้เกิดทะเลสาบขนาด 132 ตารางกิโลเมตร ลึกถึง 130 เมตร ขึ้นที่เหนือเขื่อนมีชื่อว่าทะเลสาบนัสเซอร์ ตั้งตามชื่อประธานาธิบดีอียิปต์ที่ทำการสร้างเขื่อนได้สำเร็จ โดยที่ได้รับเงินทุนและบุคลากรสนับสนุนจากอดีตสหภาพโซเวียต โดยอียิปต์ตอบแทนกลบรัสเซียด้วยผ้าคอตตอน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของอียิปต์ในสมัยนั้น
หลังจากเขื่อนสร้างเสร็จ อียิปต์ไม่มีปัญหาไฟฟ้าและน้ำประปาขาดแคลนอีกเลย หากเกิดไฟฟ้าดับหรือน้ำไม่ไหลในอียิปต์ มีสาเหตุมาจากสายส่งและท่อ ไม่ใช่การขาดแคลนไฟฟ้าหรือน้ำประปา และผลจากการสร้างเขื่อนทำให้โบราณสถานสมัยอียิปต์โบราณต้องจมน้ำหลายสิบแห่งด้วยกัน และ องค์กร Unesco ต้องใช้เงินทุนและผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเพื่อย้ายวิหารเหล่านั้นขึ้นจากน้ำ โดยคัดเลือกเฉพาะแห่งที่ทรงคุณค่า วิหารที่โด่งดังที่สุดก็คือ Abu Simble
by TL NOK
ค้นหา : ทัวร์อียิปต์ ทัวร์อียิปต์ไนล์ครู๊ซ ทัวร์อียิปต์ล่องแม่น้ำไนล์ ทัวร์ตะวันออกกลาง.แม่น้ำไนล์
ทัวร์แนะนำ
บทความท่องเที่ยว อับเดตล่าสุด
TOP