เมืองซาปาและฟานซิปัน หลังคาแห่งอินโดจีน

เมืองซาปาและฟานซิปัน หลังคาแห่งอินโดจีน

จุดที่สูงที่สุดของประเทศเวียดนาม ก็คือยอดเขาฟานซิปัน ซึ่งมีความสูงถึง 3,143 เมตรจนได้รับฉายาว่าเป็นหลังคาแห่งอินโดจีน ซึ่งหมายรวมถึงอดีตประเทศอาณานิคมฝรั่งเศสทั้ง 3 แห่ง คือเวียนดนาม ลาว และกัมพูชา ซึ่งยอดเขาฟานซิปันนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของเมืองซาปา จังหวัดหลาวกาย

ทัวร์เวียดนาม การเดินทางจากประเทศไทยนั้นที่สะดวกที่สุดคือการนั่งเครื่องบินไปลงที่ฮานอยก่อน แล้วต่อรถขึ้นภาคเหนือ ซึ่งมีทางด่วนเปิดใหม่ถนนดีนั่งสบาย ใช้เวลานั่งรถประมาณ 4 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลเรื่องห้องน้ำ ด้วยทางด่วนมีจุดรอดรถสำหรับเข้าห้องน้ำ และแม้กระทั่งหาเครื่องดื่ม ของทานเล่นเล็กๆ น้อยๆ เติมพลังได้ตลอดเส้นทาง ล่าสุดทางการเวียดนามกำลังสร้างสนามบินที่เมืองซาปาอยู่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 3-4 ปีข้างหน้า แต่ทว่าการนั่งรถไปยังเมืองซาปาก็จะทำให้มีโอกาสได้ผ่านชมภูมิประเทศอันเขียวขจีรวมถึงวิวภูเขาภาคเหนือของเวียดนามไปได้ตลอดทาง

เมืองซาปา เดิมทีเป็นที่อยู่กลุ่มชนเผ่า ชาวภูเขาทั้งหลายแหล่ ซึ่งในปัจจุบัน พวกเขาก็คือประชากรขาวเวียดนามที่ยังคงมีวิถีชีวิตแบบชาวเขา ทว่าการเข้ามาของนักท่องเที่ยว ทำให้วิถีชีวิตหลายอย่างนั้นเปลี่ยนไป แต่เดิมเมืองซาปาเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่สมัยที่ฝรั่งเศสยังเป็นเจ้าอาณานิคมที่นี่อยู่ ด้วยฝรั่งเศสเลือกซาปาเป็นเมืองพักตากอากาศหลบร้อนในตัวเมืองฮานอยมาที่นี่ เมื่อเวียดนามได้รับเอกราชแล้ว เมืองซาปาก็ยังขึ้นชื่อในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีอากาศดีตลอดทั้งปี โดยมีอากาศเย็นสลับกับฝนตกเกือบทั้งปี จนได้รับอีกฉายาหนึ่งก็คือเมืองในหมอก

แต่เดิมการไปเยือนยอดเขาฟานซิปันนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากวิธีเดียวที่จะสามารถขึ้นไปพิชิตยอดเขาได้ก็คือการเดินเทรคกิ้ง แต่เมื่อ พ.ศ. 2559 บริษัทซันเวิร์ล หนึ่งในบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ของเวียดนามก็ทำการสร้างกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขาฟานซิปันได้สำเร็จและเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากใช้เวลาสร้าง 2 ปี โดยใช้ทีมวิศวกรจากออสเตรีย เยอรมันและสวิตเซอร์แลนด์ จากสถานีกระเช้าใช้เวลานั่งกระเช้าประมาณ 15 นาที อากาศด้านบนกับด้านล่างมักจะแตกต่างกันอย่างรู้สึกได้ชัดเจนท่านจึงควรเตรียมตัวไปให้พร้อม เช่นการเตรียมอุปกรณ์กันหนาวต่างๆ ติดตัวไป

ไม่เพียงเท่านั้น ด้านบนยอดเขาได้มีการสร้างแลนด์มาร์กไว้ถ่ายรูปมากมาย ทั้งศาลเจ้า พระพุทธรูป เจดีย์ เลยไปจนถึงร้านค้าร้านอาหารมากมายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

จุดเด่นของกระเช้าขึ้นเข้าฟานซิปันนั้นก็คือ ทัศนียภาพอันหาใดเปรียบ ด้วยจะได้เห็นทั้งนาขั้นบันได (ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม) พื้นที่เกษตรกรรม เนินเขา ต้นไม้ เรื่อยขึ้นไปจนถึงยอดเขาต่างๆ โดยรอบซึ่งเป็นวิวที่ชวนประทับใจได้ไม่ยาก แม้ว่าในแต่ละปีนั้น วันที่ “ไม่มีหมอก” ของซาปานั้น มีน้อยกว่าวันที่มีหมอกอยู่มากก็ตาม ท่านก็ได้ชมวิวในแบบฉบับของเมืองในหมอกซึ่งสวยในแบบหนึ่งเช่นกัน

มีข้อควรระวังสำหรับท่านที่มีอาการแพ้ความสูง หากท่านใดเคยขึ้นพื้นสูงที่มีความสูงมากกว่า 3,000 เมตรมาก่อนแล้วเกิดอาการแพ้ (เช่นมึนศีรษะ อยากอาเจียน หมดแรง) ไม่แนะนำให้ขึ้นกระเช้าฟันซิปัน ตัวเมืองซาปานั้นสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,650 เมตร แต่ยอดเขาฟานซิปันนั้นอยู่ที่ 3,143 เมตร อาจทำให้เกิดอาการป่วยได้ หรือหากท่านใดไม่ทราบมาก่อนว่ามีอาการแพ้พื้นที่สูงและเมื่อขึ้นไปแล้วก็เกิดอาการนั้น มีวิธีแก้ง่ายๆ ก็คือให้นั่งพัก อย่าวิ่ง อย่าทำอะไรที่ทำให้เหนื่อยจะทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิม หากยังมีดีขึ้น ด้านบนยอดเขามีบริการทางการแพทย์คอยดูแล (ไม่มีออกซิเจนกระป๋องจำหน่าย) และวิธีที่ได้ผลชะงักก็คือการลงกระเช้าลงเขาทันที อาการป่วยก็จะหายไป

ชมเมืองซาปา

ในเมืองซาปานั้นมีโรงแรมที่พักจำนวนมากและหลากหลาย ตั้งแต่ระดับธรรมดาไปจนถึงหรูหราราคาสูงให้เลือกสรร แนะนำว่าควรเดินทางไป ทัวร์เวียดนาม ซาปา ในช่วงวันธรรมดาจะคนน้อยกว่าช่วงวันหยุด และข้อควรระวังก็คือ ห้ามเดินทางไปซาปาโดยไม่จองโรงแรมเป็นอันขาด เนื่องด้วยซาปานั้นไม่ได้เป็นที่นิยมเฉพาะตัวชาวต่างชาติ แต่กับชาวเวียดนามเองก็นิยมมาพักผ่อนที่นี่เช่นกัน ดังนั้นเราอาจจะเจอแจคพอตเดินทางไปตรงกับช่วงวันหยุดของชาวเวียดนามได้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งนั่นหมายความว่าที่พักทุกแห่งถูกจับจองเต็มหมดจนไม่มีที่พักเหลือ แม้แต่คนเวียดนามที่ขับรถมาเที่ยวเองก็ถึงกับต้องนอนบนรถมาแล้ว

ร้านชำและร้านอาหาร ตลอดจนของที่ระลึก เสื้อและอุปกรณ์กันหนาวทั้งหมดนั้นพบได้ทั่วไปในเมืองซาปา บางครั้งหากท่านเตรียมตัวมาไม่เพียงพอก็สามารถซื้อหาได้ที่นั่น โดยมากจะเป็นสิ้นค้าที่มาจากจีน ส่วนอาหารสำเร็จรูปมักเป็นของเวียดนาม มีร้านค้าจำนวนไม่น้อยติดป้ายเอาใจนักท่องเที่ยวชาวไทย ด้วยการติดป้ายขนาดใหญ่เป็นภาษาไทย เจ้าของร้านนั้นเป็นคนเวียดนาม บางร้านพอพูดภาษาไทยรู้เรื่องบ้างและมีหลายร้านที่รับเงินไทย หรือแม้แต่รับแลกเงินไทย นับได้ว่าเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวชาวไทยมาเยือนไม่ด้อยกว่าที่ใด

ตัวเมืองซาปานั้นสร้างขึ้นบนไหล่เขา ทำให้พื้นทางเดินมักเป็นเนินลาดเอียง และมีฟุตบาทที่ค่อนข้างแคบ จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินอย่างยิ่ง ส่วนการเดินทางภายในเขตเมืองซาปานั้น ทางการสั่งห้ามรถขนาดใหญ่ทุกชนิดเข้ามาวิ่ง จำเป็นต้องจอดทิ้งไว้ยังลานจอดรถ แต่จะมีรถกอล์ฟไฟฟ้าให้บริการในการเดินทางไปยังจุดต่างๆ อย่างสะดวกสบาย ซึ่งโดยมากก็ไม่ได้ไกลกันมาก สามารถเดินถึงกันหากท่านเป็นคนที่ชอบเดินออกกำลังกาย แต่ถ้าไม่สะดวกก็มีทางเลือกนั่งรถได้นั่นเอง

เมืองซาปานั้นไม่ได้มีดีแค่ยอดเขาฟานซิปัน แต่มีที่เที่ยวอีกมายก ไม่ว่าเป็นคาเฟ่เก๋ๆ สำหรับถ่ายรูปตามสมัยนิยมในขณะนี้ สะพานกระจก น้ำตก ตลอดจนหมู่บ้านชาวเขาชื่อดังอย่างหมู่บ้านกัตกัตเป็นต้น ซึ่งทำให้เมืองซาปานั้นมีกิจกรรมเลือกให้ทำมากมาย สามารถใช้เวลาเที่ยวชมได้หลายวัน

ประสบการณ์ที่เป็นที่นิยมอย่างหนึ่งในการมาเยือนหมู่บ้านกัตกัต ก็คือการเช่าชุดชาวเขา หรือชนเผ่า ถ่ายรูปภายในหมู่บ้าน ซึ่งมีราคาค่าเช่าที่ไม่แพง มีบริการแต่งหน้าทำผมให้ซื้อเพิ่มหากต้องการ แม้ว่าจะไม่ได้รูปกันจริงจังเท่าการเช่าชุดถ่ายรูปในเมืองโบราณหลายแห่งในประเทศจีน แต่ที่ซาปานั้นก็ได้บรรยากาศที่ดีและมีราคาที่ย่อมเยาว์กว่านั่นเอง

เมนูสุกี้แซลมอน

เมนูเลื่องชื่ออย่างหนึ่งของเมืองนี้ก็คือสุกี้ปลาแซลมอน ซึ่งเป็นปลาที่มีการเลี้ยงในเขตภูเขานี่เอง เป็นเมนูแนะนำที่พลาดไม่ได้ ยิ่งเมื่อไปเยือนในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น การรับประทานเมนูสุกี้ร้อนๆ ในช่วงมื้อค่ำก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ไม่เลว

ข้อดีประการหนึ่งของการไปเยือนซาปาและฟานซิปัน ก็คือในฤดูหนาวนั้นบางปีมีหิมะให้ลุ้น แต่ถึงจะไม่ได้ไปช่วงฤดูหนาว อากาศที่นี่ก็ไม่ค่อยร้อน มีอากาศดีตลอดทั้งปี อยู่ห่างจากประเทศไทยไม่ไกล มีเวลาเพียง 3 ถึง 4 วันก็ไปเที่ยวได้แล้ว ดังนั้น นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่เราแนะนำให้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง...

by TL NOK

ทริปแนะนำ เที่ยวซาปา ทัวร์เวียดนาม ทัวร์ซาปา ฮาลองเบย์ จ่างอาน ฮานอย

ชมรายการทัวร์เวียดนาม ได้ที่ https://www.planetworldwide.com/vietnam/

ค้นหา : ภูเขาฟานซีปัน ทัวร์ซาปา เที่ยวซาปา ทัวร์เวียดนาม ทัวร์เอเชีย