โคลอสเซียมแห่งเมืองเอลเยม ตูนีเซีย

โคลอสเซียมแห่งเมืองเอลเยม ตูนีเซีย

โคลอสเซียมแห่งเมืองเอลเยม ตูนีเซีย

ในสมัยของโรมันนั้น ความบันเทิงก็คือสิ่งที่จะขายเสียไม่ได้ เนื่องจากอาณาจักรโรมันอันเกรียงไกรนั้นมีความเจริญมาก และการค้าขายที่ร่ำรวย และเมื่อสังคมเริ่มพัฒนาไปด้วยความมั่งคั่ง ความบันเทิงคือสิ่งที่สังคมโหยหาเป็นอย่างมาก และไม่มีว่าจะเป็นผู้คนจากชนชั้นใดในสังคมก็สามารถมีความสุขกับความบันเทิงในแบบโรมันนี้ได้ทุกชนชั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าดินแดนตูนีเซียในปัจจุบัน ในสมัยโรมันนั้นคือเมืองขนาดใหญ่ที่เต็มด้วยระบบระเบียบทางสังคมมากมาย ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งที่คอยช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมันอีกด้วย

โคลอสเซียมแห่งเอลเยมนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นโรงละครยุคโรมันขนาดใหญ่ที่สุดในอาฟริกาเหนือ ซึ่งสามารถจุผู้ชมได้มากถึง 35,000 คน สร้างในสมัยค.ศ. 238 หรือเกือบ 1,800 ปีมาแล้ว ในรัชมัยของจักรพรรดิกอร์เดียนที่ 1 สร้างจากหินทราย สิ่งที่โดดเด่นอย่างมากของโรงละครแห่งนี้ก็คือพื้นที่ชั้นใต้ดินที่ยังคงสมบูรณ์อยู่มาก แม้แต่โคลอสเซียมแห่งกรุงโรมก็ยังไม่สมบูรณ์เท่านี้ ซึ่งเราสามารถเดินลงไปชมพื้นที่ส่วนกลางของชั้นใต้ดินได้ด้วย ซึ่งจะได้พบกับห้องต่างๆ ทั้งที่มีไว้สำหรับเป็นที่พักรอของนักกีฬาที่จะขึ้นไปทำการแสดง มีแม้กระทั่งระบบกลไกเพื่อจะยกพื้นขึ้นไปสู่ชั้นบนเพื่อทำการแสดง ห้องที่ไว้สำหรับกักขังสัตว์ดุร้าย เป็นต้น และถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อ ค.ศ. 1979

ทัวร์ตูนีเซีย ทัวร์ตูนีเซีย

ความแตกต่างอันโดดเด่นของโคลอสเซียมแห่งเอลเยม ก็คือจะตกแต่งหัวเสาด้วยสไตล์โครินเธียนและอัศจรรย์จะมี 3 ชั้นใหญ่ๆ ด้วยกัน โดยที่ในสมัยโรมันนั้นจะมีการแบ่งแยกชนชั้นกันตรงที่นั่งบนอัศจรรย์นี่เอง ชนชั้นสูงมีที่นั่งพิเศษเป็นสัดส่วนกั้นพร้อมกับตกแต่งอย่างหรูหรา และนั่งอยู่ในทำเลที่สามารถมองเห็นการแสดงได้อย่างชัดแจ้ง ส่วนพื้นที่ของคนทั่วไปก็จะกระจายอยู่โดยรอบสนาม บางโซนนั้นก็ยังมีมุมมองที่ติดขัดอยู่บ้างตามฐานะที่ยอมจ่ายเงินมาเพื่อชมการแสดง และยิ่งนั่งสูงขึ้นไปไกลจากบริเวณการแสดงมากเท่าไหร่ ราคาค่าเข้าชมก็ยังลดน้อยลงไปด้วย เพราะนอกจากจะได้ชมการแสดงจากระยะไกลแล้วยังต้องเดินขึ้นบันไดไปแสนไกลอีกด้วย

ทัวร์ตูนีเซีย ตูนีเซีย ตูนีเซีย

การแสดงที่นี่ มีหลากหลายชนิด ทั้งการให้มนุษย์หรือเหล่าผู้กล้าแกลดดิเอเตอร์ต่อสู้กันเอง การให้มนุษย์ต่อสู้กับสัตว์ร้าย หรือแม้แต่การแสดงทางน้ำ ด้วยการจำลองเวทีการแสดงให้กลายเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่และมีการร่ายรำเป็นต้น 

อีกแห่งหนึ่งจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาดหากได้มาเยือนเมืองเอลเยมแล้วละก็คือ พิพิธภัณฑ์แห่งเอลเยม ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโคลอสเซียมแห่งเอลเยมนัก ขาดไม่ได้ใหญ่มากทว่าทรงคุณค่าหาที่สุดมิได้ เนื่องด้วยเต็มไปด้วยกระเบื้องโมเกสขนาดใหญ่จำนวนมากและมีความสมบูรณ์อย่างเหลือเชื่อ 

พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1970 แต่เดิมนั้นมีการค้นพบว่าเป็นบ้านของผู้มั่งคั่งในสมัยโรมัน จนในสุดก็ได้พัฒนาพื้นที่นี้นี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์และใช้รวบรวมแสดงงานโมสกจากแหล่งโบราณคดีที่พบในบริเวณใกล้มาไว้ที่นี่ ซึ่งท่านจะได้พบกับโมเสกลวดลายต่างๆ มากมายโดยมากก็คือเทพเจ้ากรีกโรมัน กับเรื่องราวในตำนานช่วงต่างๆ ความน่าทึ่งอีกอย่างของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือการได้ชมบ้านชนชั้นสูงจากยุคโรมัน ซึ่งบูรณะจากบ้านดั้งเดิมของแท้หนึ่งหลัง ซึ่งสามารถเข้าได้ยังส่วนที่เป็นบริเวณสวนหย่อมขนาดย่อมกับระบบน้ำพุเพื่อช่วยระบายอากาศและความร้อน พร้อมทั้งห้องต่างๆ ที่ตกแต่งด้วยพื้นกระเบื้องโมเสกอย่างประณีต

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ยุคโรมันหรือไม่ แต่ประสบการณ์การเยี่ยมชมโคลอสเซียมแห่งเอลเยมและกระเบื้องโบเสกขนาดใหญ่มากมายที่เมืองแห่งนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีไม่น้อยในการเดินทางท่องเที่ยวตูนีเซีย เชื่อว่าทั้งขนาดอันใหญ่โตและความละเอียดของกระเบื้องโมเสกจะสร้างความประทับใจให้ได้อย่างแน่นอน...

 

by TL NOK

 

ชมโปรแกรมทัวร์ ได้ที่ https://www.planetworldwide.com/Tunisia-10-Days-909.html

 

ค้นหา : ทัวร์ตูนิเซีย ทัวร์ตูนีเซีย ตูนีเซีย ตูนิเซีย ทัวร์ตะวันออกกลาง



Advertise


^
TOP