ถ้ำอชันตา พุทธศิลป์นับพันปี แห่งอินเดีย

เป็นที่ทราบกันดีว่าพุทธศาสนาเคยเจริญรุ่งเรืองในดินแดนของอินเดียมาก่อน โดยเฉพาะในช่วงพุทธศตวรรษที่ 4 สมัยพระเจ้าอโศก มีการเผยแพร่ศาสนาพุทธไปจนทั่วอาณาจักร แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ศาสนาพราหมณ์ได้ปรับเปลี่ยนคำสอนกลายเป็นศาสนาฮินดูซึ่งได้ผนวกเอาพระพุทธเจ้าว่าเป็น 1 ในการอวตารของพระนารายณ์หรือพระวิษณุ ทำให้ผู้คนจำนวนหันไปนับถือศาสนาฮินดูอีกครั้ง และศาสนาพุทธซึ่งมีต้นกำเนิดในประเทศอินเดียก็ค่อยๆ เสื่อมความนิยมลงไปกระทั่งในปัจจุบันมีชาวพุทธอยู่ในอินเดียประมาณสิบล้านคนเท่านั้น ทว่าร่องรอยความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธก็ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน และหนึ่งในหลักฐานอันเป็นที่ประจักษ์ก็คือถ้ำอชันตา พุทธศิลปะนับพันปีแห่งเมืองออรังกาบัด รัฐมหาราษฎระ

เมื่อประมาณ พ.ศ. 350 ได้มีการสร้างถ้ำอชันตาขึ้นเป็นครั้งแรก สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นจากการที่พระสงค์ที่ต้องการปลีกวิเวกในการศึกษาพระธรรมได้เดินป่าเข้ามาเพื่อหาที่ที่เงียบสงบเหมาะแก่การศึกษาพระธรรม กระทั่งมาพบกับบริเวณที่เป็นหน้าผาหินแกรนิตแห่งนี้และเริ่มมีการขุดถ้ำเพื่อใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมเกิดขึ้น

แท้จริงแล้วอชันตาเป็นชื่อเรียกลุ่มถ้ำทั้งหมดซึ่งมีมากถึง 30 ถ้ำแบ่งการสร้างออกเป็น 2 ระยะด้วยกัน ระยะแรกในช่วงพุทธศตวรรษที่ 3-7 จะเป็นถ้ำในยุคแรก ไม่มีการตกแต่งที่มากมายนัก กระทั่งศาสนาพุทธเลื่อมความนิยมลง การขุดถ้ำยังพื้นที่แห่งนี้ก็เสื่อมความนิยมลงไปด้วย กระทั่งช่วงพุทธศตวรรษที่ 10 ช่วงปี พ.ศ. 933-1193 ชาวพุทธมหายานได้มาขุดสร้างถ้ำต่ออีกครั้ง ซึ่งในสองระยะนั้นห่างกันนานถึงสี่ร้อยปี

เมื่อ พ.ศ. 2527 ยูเนสโกได้ประกาศให้ถ้ำอชันตาเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งถ้ำอชันตานั้นเป็นภูเขาหินแกรนิตโค้งตัวเป็นรูปเกือกม้า ด้านล่างมีแม่น้ำ Waghora ไหลผ่าน อันที่จริงถ้ำอชันตาถูกทิ้งร้างไปหลายร้อยปีแล้ว เนื่องจากความนิยมในศาสนาพุทธลดน้อยถอยลงอีกทั้งที่ตั้งยังอยู่ในป่าห่างไกล ยากจะเข้าถึง ต้องใช้ความพยายามอย่างแท้จริงเพื่อจะมาให้ถึง จึงถูกทิ้งร้างและถูกลืมไปหลายร้อยปี กระทั่ง 28 เมษายน พ.ศ. 2362 ร้อยเอกจอห์น สมิท นายทหารอังกฤษ (ซึ่งในเวลานั้นอินเดียอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ) มาพบเข้าโดยบังเอิญขณะที่กำลังล่าสัตว์ เขาสังเกตเห็นช่องหินซึ่งแปลกไปจากธรรมชาติจึงได้ปีนลงมาสำรวจดูแล้วก็พบกับถ้ำหลายเลขที่ 10 ซึ่งทำให้ต้องตื่นตะลึงกับความมหัศจรรย์ตรงหน้าเป็นอย่างมาก และเขาเริ่มสำรวจหลายๆ ถ้ำ ก็พบว่ามีการเจาะภูเขาหินธรรมชาติกลายเป็นศาสนสถานขนาดใหญ่ มีทั้งพระพุทธรูป เจดีย์และภาพเขียนพุทธประวัติจำนวนมาก เมื่อเขากลับไปก็ได้รายงานเรื่องนี้กับผู้ปกครองท้องถิ่นในขณะนั้นให้เข้ามาตรวจสอบ หลังจากพบว่าเป็นความจริงทุกประการก็ต้องมีการตั้งชื่อเรียกให้สถานที่แห่งนี้ ด้วยสุญหายไปจากความรับรู้ของชาวบ้านมานานหลายร้อยปี ไม่มีใครทราบชื่อที่แท้จริงของที่นี่จึงตั้งชื่อเรียกตามชื่อหมู่บ้านที่อยู่ใกล้สุดว่าถ้ำอชันตานั่นเอง

สิ่งที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือภาพเขียนที่เรียกกันว่าเทคนิคเฟรสโก หรือจิตกรรมฝาผนังแบบปูนเปียก ที่ภ้ำอชันตาเป็นรูปพระโพธิสัตว์ปัทมปาณีและวัชรปาณี ส่วนงานในยุคแรกๆ ของการสร้างถ้ำโดยมากจะเป็นการสร้างเจดีย์เพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้า ส่วนพระพุทธรูปส่วนมากจะเป็นปางนั่งห้อยพระบาท คล้ายการประทับบนบัลลังก์ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากการสร้างเทพเจ้าของกรีก ในขณะที่งานแกะสลักในยุคหลังๆ ของการสร้างจะเป็นการแกะสลักพุทธประวัติในตอนต่างๆ เช่น เสด็จปรินิพพาน

ที่ตั้งของถ้ำอชันตานั้นอยู่ห่างจากเมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุดอย่างออรังกาบัดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 104 กิโลเมตร วิธีเดินทางที่สะดวกที่สุดก็คือการนั่งเครื่องบินจากมุมไบ ซึ่งเป็นมหานครทางทิศตะวันตกตของอินเดียมาที่เมืองออรังกาบัดแล้วนั่งรถต่ออีกประมาณ 3 ชั่วโมงก็จะมาถึงทางเข้า

ภายในบริเวณถ้ำชันตานั้นไม่อนุญาตให้รถยนต์ทุกชนิดเข้าได้ ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงต้องเดินจากบริเวณลานจาดรถเพื่อมาต่อรถเวียนของที่นี่เพื่อไปถึงยังทางเข้าและจำเป็นต้องเดินเท้าขึ้นบันไดเพื่อเข้าชมถ้ำต่างๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งเรียกได้ว่าออกจะเหนื่อยอยู่ไม่น้อย เพราะว่าที่ตั้งของถ้ำนั้นไม่ค่อยมีร่มไม้ปกคลุมสักเท่าไหร่ ทำให้แสงแดดส่องลงมาถึงโดยตรง หากไม่ได้ไปเยือนในฤดูหนาวช่วงปลายปีต้นปีด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ร้อนมากและเหนื่อยง่ายกว่าปกติ แต่หากคิดว่าร่างกายไม่เอื้ออำนวย เราสามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ด้วยการจ้างพลแบก พาไปส่งให้คุณได้เข้าเยือนถ้ำสำคัญทุกแห่งได้ตั้งแต่ต้นจนจบทริป และพากลับมาส่งหน้าทางเข้าที่เดิมได้ ลักษณะเป็นเก้าอี้มีพลแบกหน้าคนหลังคน พาคุณไปทัวร์ ทั้งนี้ค่าบริการเป็นไปตามที่ทางถ้ำอชันตากำหนด

by TL NOK

ทัวร์อินเดีย ถ้ำมรดกโลก ถ้ำแอลโรร่า ถ้ำอชันตา ถ้ำเอเลเฟ่นต้า มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ชมโปรแกรมทัวร์ ได้ที่

https://www.planetworldwide.com/Ajanta-tour-23.html

ค้นหา : ทัวร์อินเดีย ถ้ำอชันต้า ทัวร์อชันต้า ทัวร์อชันตา