ทัวร์โมรอคโค (ทัวร์โมร็อกโก) คาซาบลังก้า เชฟ ชาอูน 11 วัน
2 คืน
6 คืน ตั๋วเครื่องบิน หัวหน้าทัวร์ไทย ประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพการเดินทาง |
|
แกรนด์ทัวร์โมรอคโค (ทัวร์โมร็อกโก) คาซาบลังก้า เชฟ ชาอูน เฟส 11 วัน
คาซาบลังก้าสัมผัสบรรยากาศเมืองริมขอบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ในเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างคาซาบลังก้า เมืองแห่งตำนานภาพยนตร์ชื่อดังในอดีต
เมืองสีฟ้าขาว เชฟ ชาอูน ที่บ้านเรือนพร้อมใจทาสีฟ้าขาวเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่ารักแห่งนี้
เฟส เยือนอดีตเมืองหลวงเก่าแห่ง เฟส เมืองที่คงเสน่ห์ความเป็นโมร็อกโกไว้ได้อย่างดีเยี่ยม การเดินเล่นในเมืองเก่าให้ความรู้สึกเหมือนการย้อนเวลาสู่อดีต ซึ่งไม่มีที่ใดจะเสมอเหมือนได้
เมอร์ซูก้า เที่ยวทะเลทรายสีทองพร้อมนำท่านขี่อูฐ สู่เนินทรายอันกว้างใหญ่สุดสายตา
เมืองวอซาเซท ที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวแบบผจญภัยท่ามกลางทะเลทราย เมืองนี้ถูกกล่าวขานให้เป็นเมืองฮอลิวู๊ดแห่งโมร็อกโก
มาราเกช เยี่ยมเมืองมหัศจรรย์แห่งมาราเกช เมืองโอเอซิสบนลุ่มน้ำเทนซิฟท์ อดีตเมืองหลวงแห่งราชวงศ์อัลโมราวิด เมืองนี้ถูกกล่าวขานให้เป็น A City of Drama
วันเดินทาง | ผู้ใหญ่ 2ท่าน/ห้อง | เด็กไม่เสริมเตียง | เด็กเสริมเตียง | พักเดี่ยว +เพิ่ม | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
|||||||||||||
|
|||||||||||||
อ้างอิงราคา สำหรับวันที่ 23/11/24 16:51:32 เท่านั้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ปรับเปลี่ยนวันเดินทาง และราคา โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า |
|||||||||||||
|
โปรแกรมทัวร์ : ทัวร์โมรอคโค (ทัวร์โมร็อกโก) คาซาบลังก้า เชฟ ชาอูน 11 วัน
วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ
22.30 พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 8-9 เคาเตอร์ U14 สายการบินอิมิเรสต์ เจ้าหน้าที่บริษัท ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินท์
วันที่สอง ดูไบ (UAE) - คาซาบลังกา – ราบัต
01.35 ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ EK385 เพื่อบินสู่สาธารณรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ใช้เวลาบิน 7 ชม. เวลาที่ดูไบจะช้ากว่าประเทศไทย 3 ชม.
04.45 ถึงสนามบินนานาชาติดูไบ นำท่านต่อเครื่องบินเที่ยวบิน EK751
07.30 ออกเดินทางสู่ กรุงคาซาบลังก้า ใช้เวลาบิน 8.45 ชม.
12.45 เดินทางถึง สนามบินนานาชาติ เมืองคาซาบลังก้า ประเทศโมร็อกโก (เวลาท้องถิ่น ช้ากว่าประเทศไทย 7 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พบมัคคุเทศก์ท้องถิ่น จากนั่นเดินทางเข้าสู่ เมืองคาซาบลังก้า นำท่านเข้าชม สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองเมกกะ (ชมด้านในสุเหร่า ซึ่งรวมค่าเข้าชมแล้ว) สุเหร่านี้งดงามประณีตด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมร็อกโกทุกแขนง มีหอประกาศเชิญชวนเมื่อเข้าเวลาละหมาดที่สูงที่สุดในโลกมีความสูงถึง 210 เมตรชมทิวทัศน์รอบๆ สุเหร่าอันเป็นจุดชมวิวริมฝั่งทะเลซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนที่สวยงามของชาวโมร็อกโกที่ชอบมาเดินเล่นหลังจากปฏิบัติศาสนกิจเสร็จแล้ว
นำท่านเดินทางสู่ เมืองราบัต นำท่านชมเมืองราบัตเมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956 เป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวงและทำเนียบทูตานุทูตจากต่างแดน เป็นเมืองสีขาวที่สะอาดและสวยงาม
เย็น รับประทานอาหารเย็นภายในโรงแรมฯ
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ โรงแรม ...........หรือเทียบเท่า 4*
หมายเหตุ......เพื่อความสะดวกในการเดินทางพรุ่งนี้กรุณาแยกกระเป๋าใบเล็กเพื่อพักในเมืองเชฟชาอูน1คืน เพราะว่าเมืองเชฟชาอูนรถบัสใหญ่จะขึ้นยากประกอบกับขนาดของห้องนอนในหุบเขาจะเล็กทั้งนี้กรุณาเตรียมเครื่องอาบน้ำด้วยคะ
วันที่สาม ราบัต – เชฟชาอูน (เมืองสีฟ้า)
เช้า รับประทานอาหารเช้าพร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเที่ยวชม เมืองราบัต ชม ด้านนอกของ สุเหร่าหลวง และ ด้านนอก พระราชวังหลวง ที่ทุกเที่ยงวันศุกร์กษัตริย์แห่งโมร็อกโกจะทรงม้าจากพระราชวังมายังสุเหร่า เพื่อประกอบศาสนกิจ ชม สุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 พระอัยกาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน มีทหารยามยืนเฝ้าทุกประตู เปิดให้คนทุกชาติทุกศาสนาเข้าไปเคารพพระศพที่ฝังอยู่เบื้องล่าง ด้านหน้าของสุสาน คือ สุเหร่าฮัสซันที่เริ่มสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 แต่ไม่สำเร็จ และพังลงจนเหลือแต่เพียงเสาไว้ 365 ต้น ในบริเวณกว้าง 183x139 เมตร นำชม ป้อมไอดยะป้อมขนาดใหญ่ 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงใหญ่ ด้านในเป็นเมดิน่าบ้านเรือนทาด้วยสีฟ้าสลับกับสีขาวดูสะอาดตา
ได้เวลาเดินทางสู่ เมืองเชฟชาอูน นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชฟชาอูน เมืองที่ชาวบ้านพร้อมใจกันทาสีฟ้าขาว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและด้วยความที่ตั้งของเมืองอยู่ในหุบเขาริฟ จึงทำให้อุณหภูมิของเมืองเย็นตลอดทั้งปี อดีตเมืองแห่งนี้เคยตกอยู่ใต้การปกครองของสเปนทำให้ปัจจุบันประชากรบางส่วน ยังคงใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาหลัก ด้วยมนต์เสน่ห์ของเมืองและร่มเงาประกอบกับการตกแต่งบ้านเรือนสไตล์โมร็อกโก ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเข้าสู่ที่พักเช็คอินท์ และ อิสระให้ท่านเดินเล่นภายในเมือง
เย็น รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรมฯ (อาหารค่ำที่ในเมืองเชฟชาอูนสไตล์พื้นบ้าน)
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ โรงแรม ..........หรือเทียบเท่า 4*
วันที่สี่ เชฟชาอูน – เมกเนส – เมืองโรมันโวลูบิลิส - เฟซ
เช้า รับประทานอาหารเช้าท้องถิ่น (แบบไข่ดาว ,ขนมปัง,กาแฟ) พร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเดินทางสู่ เมืองแมคเนส อดีตเมืองหลวงของโมร็อกโก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ เมืองราบัต เคยเป็นฐานทัพทางการทหารที่สำคัญตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ใช้เป็นเมืองหลวงในราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตเมืองหลวงแห่งอื่น ๆ ของโมร็อกโกแล้ว แมคเนสเป็นเมืองหลวงที่มีระยะเวลาสั้นที่สุดเพียง 50 ปีเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นเมืองแมคเนสแห่งนี้ก็ยังคงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบมัวร์-สเปนิช ที่งดงามมากมาย เช่นที่พบในสถาปัตยกรรมแบบมุสลิมของสเปนตอนใต้ ชมกำแพงเมืองล้อมรอบเมืองเก่าแมคเนส ที่มีความยาวประมาณ 40 กิโลเมตร ซึ่งมีประตูเมืองใหญ่โตถึง 7 ประตู ชม ประตูบับมันซูที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูที่มีความสวยที่สุดเป็นเหมือนยอดมงกุฎตกแต่งด้วยโมเสดไม้สลักสวย ๆ ผสมกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบยุโรปและกระเบื้องสีเขียวบนผนังสีแสด สีสันสวยงามสดใส และในเขตเมืองเก่าของแมคเนส ยังมีประตูที่สวยงามอีกหลายแห่ง
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโรมัน โวลูบิลิส อดีตเมืองโบราณแห่งจักรวรรดิโรมันที่มีความสำคัญยิ่งใหญ่ในยุคศตวรรษที่ 3 และล่มสลายถูกปล่อยเป็นเมืองร้างในศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันเหลือแต่เพียงซากปรักหักพังที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในปี ค.ศ. 1755 แต่ก็ยังสามารถที่จะพอได้เห็นร่องรอยของความยิ่งใหญ่ของเมืองในจักรวรรดิโรมันในอดีต เมืองโรมันโวลูบิลิส แห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1997
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองเฟซ ซึ่งยังคงมีบรรยากาศของเมืองโบราณที่ผู้คนยังใช้ลาเป็นพาหนะและบรรทุกของกันอยู่ สัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าแก่ที่สุดในบรรดาเมืองอิมพีเรียลทั้งสี่เมืองหลัก
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ โรงแรม .........หรือเทียบเท่า 4* พัก 2 คืนติดกัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรมฯ
วันที่ห้า เฟซ
เช้า รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมฯ
นำท่านเที่ยวชม เมืองเฟซ Fes เมืองเหลวงเก่าใน ศตวรรษที่ 8 ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโมร็อกโก ชม ประตูพระราชวังหลวงแห่งเฟซ ที่มีทหารยามยืนเฝ้าหน้าประตูอย่างสง่างาม ประตูทางเข้าพระราชวังเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยและสง่างาม เป็นเอกลักษณ์แห่งราชวงศ์โมร็อกโก บริเวณใกล้เคียงพระราชวังเคยเป็นชุมชนชาวยิวที่ทำรายได้ให้แก่ราชวงศ์ เพราะชาวยิวฉลาดทำการค้าเก่ง แต่ปัจจุบันชาวยิวส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับไปอยู่ในดินแดนแห่งพันธสัญญา (ประเทศอิสราเอล) คงเหลือชาวยิวอยู่ไม่มากนัก
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เขาวงกตอันซับซ้อนแห่งเมดิน่า เมืองเฟซ ผ่านประตู Bab Bou Jelound ที่สร้างตั้งแต่ปี 1913 ที่ใช้โมเสดสีฟ้าตกแต่ง เดินผ่านเข้าไปในเขตเมดิน่าแล้วเหมือนข้ามกาลเวลาย้อนสู่อดีต
นำท่านเดินผ่านตลาดสดขายข้าวปลาอาหาร และผัก ผลไม้สดต่าง ๆ นานาชนิด ชม เมเดอร์ซา บูอิมาเนีย Merdersa Bou Imania ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนพระคัมภีร์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบมัวร์ที่สวยงามประณีต
ในเขตเมืองเก่าได้แบ่งออกเป็น 100 ส่วน มีซอยแคบสุดคือ 50 เซนติเมตร ถึงกว้าง 3 เมตร จะแบ่งเป็นย่านต่าง ๆ เช่น ย่านเครื่องใช้ทองเหลือง ทองแดง จะมีร้านค้าเล็ก ๆ ที่หน้าร้านจะมีหม้อ กระทะ อุปกรณ์เครื่องครัว วางแขวนห้อยเต็มไปหมด ย่านขายพรหมที่วางเรียงรายอย่างสวยงาม ย่านงานเครื่องจักรสาน งานแกะสลักไม้ และ ย่านเครื่องเทศ Souk El Attarine ท่านจะได้สัมผัสทั้งรูป รส และกลิ่นในย่านเครื่องเทศที่มีการจัดเรียงสินค้าได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ระหว่างที่เดินตามทางในเมดิน่าท่านจะได้พบกับ น้ำพุธรรมชาติ Nejjarine Fountain เพื่อให้ชาวมุสลิมให้ล้างหน้าล้างมือก่อนเข้าไปในบริเวณมัสยิด นอกจากนี้ที่ตามซอกตามมุมอาจเห็นภาพชายสูงอายุหนวดเครารุงรังนั่งแกะสลักไม้ชิ้นเล็ก ๆ อยู่บริเวณตามทางเดินแคบ ๆ ในเขตเมืองเก่า บางทีเราก็ยังจะเห็นผู้หญิงที่นี่สวมเสื้อผ้าที่ปิดตั้งแต่หัวจนถึงเท้าจะเห็นได้ก็เฉพาะตาดำอันคมกริบเท่านั้น ผ่านชมสุเหร่าโคเราวีน ซึ่งเป็นทั้งมหาวิทยาลัยสอนศาสนาแห่งแรกของโมร็อกโกและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว (เฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น)
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินชม ย่านเครื่องหนัง และแวะชม บ่อฟอกหนังและย้อมสีหนังแบบโบราณ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองเฟซ ถูกอนุรักษ์โดยองค์การยูเนสโก้ ทั้งหมดนี้เป็นเสน่ห์ของการเดินเที่ยวชมเมืองที่ต้องเดินเที่ยวชม อิสระเดินเล่นช้อปปิ้งภายในเมืองเฟซเมืองเก่า // ได้เวลาเดินทางกลับสู่ที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรมฯ
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ โรงแรม .........หรือเทียบเท่า 5* โรงแรมเดิม
วันที่หก เมืองเฟซ – อิเฟรน - มิเดลท์ - เมืองเออฟอร์ด - เมอร์ซูก้า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
เดินทางต่อสู่ เมืองอิเฟรน เป็นเมืองที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,650 เมตร ที่พักตากอากาศซึ่งในอดีตฝรั่งเศสได้มาสร้างขึ้นบริเวณนี้ ในช่วง ค.ศ. 1930 บางครั้งเรียกว่า เจนีวาแห่งโมร็อกโก บ้านส่วนใหญ่มีหลังคาสีแดง มีดอกไม้ และทะเลสาบสวยงาม เป็นสถานที่พักผ่อนทั้งฤดูหนาวและฤดูร้อน และผ่านเข้าเมือง มิเดลท์ เส้นทางนี้ผ่านเทือกเขาแอตลาส ชื่อที่คุ้นเคยกันมานานเดินทางข้าม Middle Atlas ภูมิประเทศเขียวชอุ่มไปด้วยป่าไม้และต้นปาล์ม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเออฟอร์ด ซึ่งเป็นโอเอซิสศูนย์กลางการค้าขายของคาราวานซึ่งเดินทางมาจากซาอุดิอาระเบียและซูดาน
ถึงโรงแรมนำท่านเช็คอินท์................หรือเทียบเท่า 4*
จากนั่นนำท่านเข้าเช็คอินท์และเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเดินทางสู่ทะเลทราย กรณีห้องพักที่เมอร์ซูก้าว่างจะเข้าพักที่เมอร์ซูก้าคะ
พิเศษ นำท่านเข้าสู่ ทะเลทรายซาฮาร่า โดยรถบัส เพื่อขี่อูฐ สู่เนินทรายอันกว้างใหญ่สุดสายตาเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นจากทะเลทราย เป็นบรรยากาศยามเช้าที่คุณจะประทับใจมิรู้ลืม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรม
วันที่เจ็ด เมืองเมอร์ซูก้า –เมืองทินเฮียร์ - เมืองวอซาเซท
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
นำท่านเดินทางต่อโดยผ่าน หุบเขาดาเดส แนวเขาและธรรมชาติของหุบเขาที่ถูกกรัดกร่อนจากแรงลมทำให้หุบเขากลายเป็นรูปร่างต่าง ๆ สวยงาม ผ่านเส้นทางทอดร้าแคนยอน Todra Gorges ชมความงามของช่องเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในโอเอซิส ลำน้ำเกลือที่ไหลผ่านช่องเขากับหน้าผาที่สูงชันแปลกตา เป็นแหล่งปีนหน้าผาสำหรับนักเสี่ยงภัยทั้งหลาย จากนั่นผ่านสู่ชุมชน Tinghrir ที่เกาะกลุ่มอยู่รวมกันท่ามกลางความแห้งแล้งแต่ยังมีความชุ่มชื้นของโอเอซิส ต้นปาล์ม เคยเป็นที่ตั้งของกองทหารที่เดินทางมาจากวอซาเซทเดินผ่าน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่ เมืองวอซาเซท เคยเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1928 ฝรั่งเศสได้ตั้งกองกำลังทหารและพัฒนาที่นี่ให้เป็นศูนย์กลางการบริหาร วอซาเซท เป็นเมืองถูกส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวแวดล้อมด้วยสตูดิโอภาพยนตร์และมีการพัฒนาพื้นที่ในทะเลทรายเพื่อการทำกิจกรรมต่างๆเช่นการขี่มอเตอร์ไซด์ อูฐ กิจกรรมผจญภัยกลางทะเลทราย สำหรับในฤดูหนาว-ฤดูใบไม้ผลิ(พ.ย.-เม.ย.) ควรเตรียมเสื้อกันหนาวให้เพียงพอ เพราะเมืองนี้อยู่ใกล้ภูเขาแอตลาสที่มีหิมะปกคลุมในช่วงดังกล่าววอซาเซทอาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดมุ่งหมาย ของนักท่องเที่ยวที่มองหาความแตกต่าง และความผจญภัยที่หาไม่ได้จากที่ไหน วอซาเซทเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของทางตอนใต้ และที่นี่ยังเป็นทางเชื่อมระหว่างเหนือกับใต้ และตะวันออกกับตะวันตก
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ โรงแรม.....หรือเทียบเท่า 4*
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรมฯ
วันที่แปด เมืองวอซาเซท – เมืองไอเบนฮาดู – เมืองมาราเกซ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
นำชม ป้อมทาเริท เป็นป้อมแห่งตระกูลกลาวี ภายใต้หมู่อาคารขนาดใหญ่ ซึ่งภายในประกอบด้วยห้องต่าง ๆ จำนวนมากซ่อนอยู่เชื่อมต่อกันด้วยถนนเล็กๆ และเส้นทางลับคดเคี้ยวตามอาคารที่เบียดเสียดกันพระราชวังของผู้ปกครองมาราเกซ ตระกูลกลาวี Glaoui Palace อยู่ภายในซึ่งยังมีลวดลายผนังอาคารและรูปแบบสถาปัตยกรรมอันหลากหลายของการสร้างอาคารของชาวเบอร์เบอร์ การออกแบบอาคารซึ่งเหมาะกับความเชื่อและความเป็นอยู่ของเหล่าเจ้าผู้ปกครอง ในยุคของตระกูล Glaoui ที่นี่มีคนงานและคนรับใช้จำนวนหลายร้อยคนจึงต้องมีห้องเป็นจำนวนมากมีทั้งส่วนที่เป็นวังเก่าห้องนั่งเล่น ห้องรับรอง บางห้องก็ว่างเปล่า องค์การยูเนสโก้ได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นมาจากอาคารเดิมเพียง 1ใน 3 ของอาคารทั้งหมด
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองไอท์ เบนฮาดดู ชมเมืองไอท์ เบนฮาดดู เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องการหารายได้จากกองถ่ายทำภาพยนตร์กว่า 20 เรื่อง โดยเฉพาะป้อมที่งดงามและมีความใหญ่ที่สุดในโมร็อกโกภาคใต้ คือ ป้อมไอท์ เบนฮาดดู Kasbash of Ait Ben Hadou เป็นป้อมหินทรายซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสวนอัลมอนด์ เป็นปราสาทที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องที่โด่งดังอาทิ Lawrence of Arabia, Jesus of Nazareth และ Gladiator ปัจจุบันอยู่ในความดูแลขององค์การยูเนสโก้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองมาราเกซ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่ตั้งอยู่เชิงเขาแอตลาสในอดีตเมืองโอเอซิสแห่งนี้เป็นที่พักของกองคาราวานอูฐที่มาจากทางตอนใต้ของโมร็อกโก ถือเป็นเส้นทางหลักของพ่อค้าต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นอดีตเมืองหลวงในช่วงสมัยราชวงศ์อัลโมราวิด ช่วงศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด สภาพบ้านเมืองที่เราเห็นได้คือสองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วยปูนสีส้มๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่คนท้องถิ่นจะเรียกว่า Pink City หรือ เมืองสีชมพู อาจกล่าวได้ว่ามาราเกซเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง จึงได้สมญานามว่าเป็น A City of Drama นั่นคือมีความสวยงามดั่งเมืองในละครที่ไม่น่าเป็นชีวิตจริงได้
อิสระช้อปปิ้งภายในตลาดเก่า ณ จัตุรัสกลางเมือง Djemaa Fnaa Square ที่มีขนาดใหญ่รายล้อมไปด้วย อาคาร,ร้านค้า,ตลาด ทั้ง 4 ด้าน เดินเล่นถ่ายรูปความมีชีวิตชีวาที่มีสีสันและกลิ่นอายแบบโมร็อกโกขนานแท้ พร้อมจับจ่ายหาซื้อของฝากของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆได้ที่ตลาด Souks ที่อยู่รายรอบจัตุรัสอย่างอิสระเต็มที่
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ โรงแรม............หรือเทียบเท่า 4*
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรมฯ
วันที่เก้า เมืองมาราเกซ – เมืองคาซาบลังกา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมพร้อมเช็คเอ้าท์
พิเศษ...นำท่านนั่งรถม้าชมเมืองเก่า มาราเกซ เมืองสีชมพู Pink city ชมบรรยากาศรอบๆเมือง นำท่านชมด้านนอก มัสยิดคูตาเบีย ซึ่งเป็นมัสยิดใหญ่เก่าแก่ที่สุดในเมืองไม่ว่าจะเดินไปแห่งใดในตัวเมืองก็จะเห็นมัสยิดนี้ได้ จากหอบังที่มีคามสูง 226 ฟิต (70 เมตร) (ถ่ายรูปเฉพาะด้านนอก ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายในได้)
จากนั้นชม พระราชวังบาเฮีย เป็นพระราชวังของท่านมหาอำมาตย์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนยุวกษัตริย์ในอดีต สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดย Si Moussa สถาปัตยกรรมออกเป็นแนวสมัยใหม่ โดยที่ตั้งใจจะให้เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดในสมัยนั้น แต่ด้วยความที่มีการวางแผนก่อสร้างและตกแต่งอย่างเร่งรีบ จึงเป็นที่วิจารณ์กันว่ารายละเอียดหลาย ๆ อย่างในพระราชวังแห่งนี้ยังไม่สมบูรณ์ลงตัว พระราชวังมีการตกแต่งโดยการแกะสลักปูนปั้น Stucco มีการวาดลายบนไม้และประดับประดาด้วยโมเสกเป็นลวดลายที่สวยงามละเอียดอ่อนมาก
นำท่านชม สวนจาร์ดีน มาจอแรล หรือ สวนยิปแซงลอเร้นซ์ ชื่อนี้เป็นที่คุ้นเคยของสาว ๆ ที่ชื่นชอบแฟชั่นสุดหรูของ Yves St. Laurent นักออกแบบแฟชั่นดีไซน์แห่งปารีสประเทศฝรั่งเศส เป็นผู้ออกแบบสวนแห่งนี้ในช่วงที่โมร็อกโกตกเป็นอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศส ยิปแซงลอเร้นซ์มาที่ประเทศโมร็อกโก เพื่อพักผ่อนหลังจากเคร่งเครียดจากงานออกแบบแฟชั่นโชว์ บ้านหลังนี้เคยตกเป็นของเศรษฐีแห่งมาราเกซ หลังจากยิปแซงมาเยือนมาราเกซก็ได้เกิดความหลงใหลในเมืองแห่งนี้ และซื้อบ้านหลังนี้ไว้เพื่อเป็นที่พักผ่อน ชมสวนที่ถูกออกแบบโดยใช้สีฟ้าและสีส้มเป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเสา แจกัน และชมนานาพรรณของต้นไม้แห่งทะเลทรายที่จัดได้อย่างสวยงามลงตัว
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น นำท่านเดินทางกลับเมืองคาซาบลังกา ใช้เวลาประมาณ4ชั่วโมง จากนั่นอิสระให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้งภายในย่านเมดิน่าที่มีของขายมากมาย
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่นจากนั่น
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ โรงแรม...........หรือเทียบเท่า 5*
วันที่สิบ เมืองคาซาบลังกา - สนามบินโมฮาเหม็ด - ดูไบ (UAE)
08.00 รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม พร้อมเช็คเอ้าท์
08.30 นำท่านเที่ยวชม เมืองคาซาบลังกา เมืองหลวงที่มีประชากรอาศัยกันอยู่อย่างหนาแน่นและคนต่างชาติหลากหลายที่เข้ามาทำการค้าที่เมืองแห่งนี้ นำท่านเข้าชม สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 Mosque of Hassan II มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองเมกกะ (ชมด้านในสุเหร่า ซึ่งรวมค่าเข้าชมแล้ว) สุเหร่านี้งดงามประณีตด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมร็อกโกทุกแขนง มีหอประกาศเชิญชวนเมื่อเข้าเวลาละหมาดที่สูงที่สุดในโลกมีความสูงถึง 210 เมตรชมทิวทัศน์รอบๆ สุเหร่าอันเป็นจุดชมวิวริมฝั่งทะเลซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนที่สวยงามของชาวโมร็อกโกที่ชอบมาเดินเล่นหลังจากปฏิบัติศาสนกิจเสร็จแล้ว
นำท่านผ่านชมย่านธุรกิจที่สำคัญๆ เช่น จัตุรัสสหประชาชาติ ย่านพักตากอากาศของมหาเศรษฐีและผู้มีอำนาจทางเศรษฐกิจที่สำคัญของโมร็อกโก
11.00 อาหารกลางวันแบบกล่อง
12.00 ได้เวลาเดินทางกลับสู่สนามบินโมฮาเหม็ด เพื่อเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพฯ
14.45 เครื่องบินออกจากสนามบินโมฮาเม็ด เพื่อบินกลับดูไบ โดยเที่ยวบิน EK752 (เวลาบิน 7.25 ชั่วโมง)
วันที่สิบเอ็ด ดูไบ(UAE) - สนามบินสุวรรณภูมิ
01.15 ถึงสนามบินดูไบ สหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ (แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน)
02.50 ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบิน EK384 เวลาบิน 6 ชั่วโมง
12.30 เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
**************
1.ส่งสำเนาหนังสือเดินทาง พร้อมชำระเงินมัดจำท่านละ 35,000 บาท
2.ส่วนที่เหลือชำระทั้งหมดก่อนเดินทางอย่างน้อย 30 วัน
การยกเลิก
1.ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วันทำงาน มิฉะนั้นทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินมัดจำ
2.กรณียกเลิกก่อนการเดินทางภายใน 50 วันทำงาน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องหัก 50% ของราคาทัวร์
3.ถ้ายกเลิกกะทันหันก่อนเดินทาง 45วัน บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ ในการคืนเงินทั้งหมด
1.ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด โดยสายการบิน อิมิเรสต์ (ตั๋วกรุ๊ปสะสมไมล์ไม่ได้) อนุญาตโหลดกระเป๋า2ใบ ใบละไม่เกิน23กิโลกรัม
2.ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง
3.ค่าที่พักโรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวน 3 คืน ระดับ 4 ดาว 5 คืน รวม 8 คืน
4.ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการและค่าน้ำดื่ม
5.ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ
6.ค่ารถโค้ชปรับอากาศพร้อมคนขับผู้ชำนาญทางในการนำเที่ยวตามรายการ
7.ค่าประกันการเดินทางเฉพาะอุบัติเหตุวงเงิน 1 ล้านบาท // กรณีอายุเกิน 85 ปี จะทำได้เฉพาะประกันอุบัติเหตุเท่านั้น
*เงื่อนไขการเอาประกัน และการคุ้มครองประกันการเดินทาง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทฯประกันภัย ตามกรมธรรม์เท่านั้น*
8.ค่าวีซ่าประเทศโมร็อกโก สำหรับนักท่องเที่ยวพาสปอร์ตไทย
9.ค่าขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ซาฮาร่า หากท่านไม่ประสงค์จะขี่อูฐไม่สามารถคืนเงินได้
1.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าหนังสือเดินทาง ,ค่าซักรีด ฯลฯ ค่าเครื่องดื่มสั่งพิเศษในโรงแรม
2.ค่าใช้จ่ายนอกเหนือระบุในโปรแกรม
3.ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ขึ้นอยู่กับความพอใจของท่าน
4.ค่าทิปไกด์และคนขับรถ,ค่าทิปคนจูงอูฐ รวม 45 USD ต่อท่าน
5.ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีต้องการใบกำกับภาษี)
6.การบริการยกกระเป๋าเป็นการบริการเสริมเพิ่มเติม ทั้งนี้บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบกรณีกระเป๋าแตก ขีดข่วน หู้หิ้วหลุด เช่น กรณีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ยกขึ้นสายพานของแอร์ไลน์ หรือกรณีเจ้าหน้าที่โรงแรมยกเข้าออกโรงแรมหรือคนขับรถยกขึ้นรถบัสหรือยกเข้าออกเรือที่พักบนเรือ และทำให้กระเป๋าเกิดความเสียหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบใดๆให้ท่านได้ เพื่อความสบายใจกรณีลูกค้ากังวลเรื่องกระเป๋ากรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆเพื่อลูกค้าจะได้ยกกระเป๋าท่านเอง
7.กรณีกระเป๋าสูญหายระหว่างทัวร์ บริษัทฯ ขอคืนกิโลกรัมละ 15USD ตามน้ำหนักเอกสารแอร์ไลน์ที่ท่านเช็คอินท์จากกรุงเทพฯ มา
8.กรณีลูกค้าจะต้องทานซีฟู้ดทุกๆมื้อ.ลูกค้าสามารถสั่งเพิ่มและชำระเงินที่ร้านอาหารได้โดยตรง
9.กรณีแอร์ไลน์เปลี่ยนแปลงแจ้งเวลาบินกระทันหัน หรือ เที่ยวบินดีเลย์ บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบตั๋วเครื่องบินๆภายในประเทศให้ท่านได้
10.กรณีขอที่นั่งพิเศษ บริษัทฯ จะทำการรีเควสร้องขอแอร์ไลน์ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่ยืนยันจะได้ตามที่ขอหรือไม่ขึ้นอยู่กับแอร์ไลน์ดำเนินการ
11.ค่าเข้าห้องน้ำ สำหรับห้องน้ำเอกชนกรณีบางสถานที่เรียกเก็บ รบกวนชำระตรงผู้ให้บริการ
12. ค่าตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ และกลับเข้าประเทศไทย (ถ้ามี)
13. ค่าโรงแรมสำหรับ Test & Go (ถ้ามี)
14. ค่าทำ Thailandpass (ถ้ามี)
1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเลื่อนกำหนดการเดินทาง ในกรณีที่ไม่สามารถ จัดกรุ๊ปทัวร์ได้ถึง 15 ท่าน และ/หรือ ผู้ร่วมเดินทางในคณะไม่สามารถผ่านการพิจารณาวีซ่าได้ครบ 15 ท่าน
2.บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางหรือการเปลี่ยนแปลงรายการหรือเปลี่ยนแปลงราคาได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะของสายการบิน,โรงแรมที่พัก,ภูมิอากาศ,ภัยธรรมชาติ,การก่อการร้าย,การนัดหยุดงานฯลฯ ตลอดจนสภาวะทางเศรษฐกิจและการเมือง อันเป็นสาเหตุให้ต้องเลื่อนการเดินทางหรือไม่สามารถจัดพาคณะท่องเที่ยวได้ตามรายการ
3.บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาในกรณีที่สายการบินปรับเปลี่ยนราคาสายการบินหรือกรณีที่คณะผู้เดินทางต่ำกว่ากำหนด
4.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าวีซ่า, ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ หากทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว
5.เมื่อท่านได้ตกลงจองทัวร์กับบริษัทฯ แล้ว ถือว่าท่านได้ยอมรับในเงื่อนไขต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น
คำชี้แจ้ง
1.บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งเกี่ยวกับการบริการยกกระเป๋า ที่สนามบิน โรงแรม เรือ หรือรถบัส ..เป็นการบริการที่บริษัทฯ ยินดีให้บริการลูกค้าและไม่ได้บวกรวมค่ากระเป๋าเสียหาย ลงในค่าทัวร์ ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆ ก็ตามกรณีค่ากระเป๋าเสื่อมสภาพ แตกหัก หูหิ้วหลุด จากการยกขึ้นสายพาน หรือยกเข้าโรงแรมหรือเข้าเรือ หรือยกลงจากรถบัส หรือ เป็นรอยขีดข่วน ดังนั้น กรณีที่ท่านยอมรับความเสียหายได้ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานเพื่อยกให้ท่าน บริษัทฯ ยินดีให้บริการแต่กรณีที่ท่านจะยกเอง รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานก่อนการซื้อขายทัวร์เพื่อจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ท่านยกกระเป๋าท่านเองทุกๆสถานที่ ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายใดๆได้
2.กรณีกระเป๋าสูญหายระหว่างทัวร์ บริษัทฯ ขอคืนกิโลกรัมละ 15USD ตามน้ำหนักเอกสารแอร์ไลน์ที่ท่านเช็คอินท์จากกรุงเทพฯ มา //
3.บริษัทฯ จัดการเดินทางเป็นคณะพร้อมกัน ดูแลลูกค้าอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน กรณีที่ท่านต้องการความเป็นส่วนตัวและการบริการที่เหนือผู้อื่นผู้ใด และไม่ต้องการมิตรภาพจากผู้ใดในคณะ บริษัทฯ ขอความกรุณาให้ท่านแจ้งก่อนการจองทัวร์ //
4.กรณีที่ท่านแพ้อาหาร แพ้ส่วนผสมต่างๆ เช่นพริกไทย ผงชูรส แพ้ถั่ว แพ้แป้งสาลี หรือต้องการอาหารพิเศษ และจำเป็นต้องทานซีฟู้ดทุกมื้อที่มีกุ้ง หอย ปู หรือปลา หรือทานเนื้อไก่ไม่ได้ หรือทานเนื้อวัวไม่ได้ หรือทานเนื้อแพะไม่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯจะพยายามจัดหาและแจ้งร้านอาหารก่อนการเดินทางทุกครั้ง กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถจัดหาได้ หรือถ้าจัดแล้วอาจจะต้องเป็นเมนูซ้ำๆ หรือมื้อไหนบริษัทฯไม่สามารถจัดหาให้ได้บริษัทฯ ขออนุญาตจัดเป็นสลัดผักท้องถิ่น ไข่ต้มหรือไข่เจียว หรืออาหารท้องถิ่นแบบไม่มีเนื้อสัตว์แทน //
*การขอที่นั่งพิเศษบนเครื่องบิน เช่น ริมทางเดิน ริมหน้าต่าง บริษัทฯ ไม่การันตี และไม่สามารถรับผิดชอบ กรณีไม่ได้ที่นั่งตรงตามลูกค้าต้องการได้ เนื่องจากเป็นการจัดการของสายการบิน บริษัทฯ ไม่สามารถแทรกแซงได้
**กรณีลูกค้าใช้ตั๋วเครื่องบินกับบริษัทฯ จะเป็นตั๋วหมู่คณะ ตั๋วโปรโมชั่นพิเศษ การจัดที่นั่งจะเป็นโซนกรุ๊ปจะอยู่ช่วงท้ายลำของเครื่องบิน สายการบินเป็นผู้จัดที่นั่งให้ บริษัทฯ จะทำการรีเควส สายการบินตามที่ลูกค้าต้องการ แต่ไม่สามารถการันตีที่นั่งได้ เนื่องจากหลายสายการบินแยกขายที่นั่งเพิ่มจากราคาตั๋วเครื่องบิน หากลูกค้าต้องการนั่งแถวหน้าๆ หรือหน้าสุด จำเป็นต้องซื้อที่นั่งเพิ่ม หรือใช้ตั๋วเครื่องบินเดี่ยวแทนตั๋วกรุ๊ป ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่รวมในค่าทัวร์ *ราคาที่นั่งจะสามารถซื้อได้หลังจากการออกตั๋วเครื่องบินแล้ว หลังจากซื้อที่นั่งแล้วจะไม่สามารถยกเลิก หรือขอคืนเงินได้ ราคาที่นั่งจะทราบ ณ วันที่เช็คราคากับทางสายการบินแต่ละวัน
*ช่วงเวลาต่อเครื่องบินระหว่างประเทศ และในประเทศ ลูกค้าต้องตรวจสอบเวลาเรียกขึ้นเครื่องให้ถูกต้อง เนื่องจากสายการบินไม่มีประกาศการเรียกขึ้นเครื่อง หากลูกค้าตกเครื่อง ขึ้นเครื่องไม่ทัน ลูกค้าต้องชำระการซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่เอง บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบในส่วนนี้
*สำหรับท่านที่จะออกตั๋วภายในประเทศ ซื้อตั๋วเครื่องบินเอง เป็นดุลยพินิจของลูกค้า กรณีแอร์ไลน์ยกเลิกบิน หรือเปลี่ยนเวลาบิน บริษัทฯ ขออนุญาตไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เนื่องจากอยู่เหนือความควบคุมของบริษัทฯ และก่อนออกตั๋วเครื่องบินต้องได้รับคำยืนยันจากบริษัทว่ากรุ๊ปยืนยันเดินทางแล้วแน่นอนแล้ว บริษัทฯแนะนำ ควรออกตั๋วภายในประเทศให้ช้าที่สุด
*การบริการยกกระเป๋า ที่สนามบิน โรงแรม เรือ หรือรถบัส ..เป็นการบริการที่บริษัทฯ ยินดีให้บริการลูกค้าและไม่ได้บวกรวมค่ากระเป๋าเสียหาย ลงในค่าทัวร์ ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆ ก็ตามกรณีค่ากระเป๋าเสื่อมสภาพ แตกหัก หูหิ้วหลุด จากการยกขึ้นสายพาน หรือยกเข้าโรงแรมหรือเข้าเรือ หรือยกลงจากรถบัส หรือ เป็นรอยขีดข่วน ดังนั้น กรณีที่ท่านยอมรับความเสียหายได้ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานเพื่อยกให้ท่าน บริษัทฯ ยินดีให้บริการแต่กรณีที่ท่านจะยกเอง รบกวนแจ้งเจ้าหน้าที่หน้างานก่อนการซื้อขายทัวร์... เพื่อจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ท่านยกกระเป๋าท่านเองทุกๆสถานที่ ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบความเสียหายใดๆได้
*กรณีที่ท่านแพ้อาหาร แพ้ส่วนผสมต่างๆ เช่นพริกไทย ผงชูรส แพ้ถั่ว แพ้แป้งสาลี หรือต้องการอาหารพิเศษ และจำเป็นต้องทานซีฟู้ดทุกมื้อที่มีกุ้ง หอย ปู หรือปลา หรือทานเนื้อไก่ไม่ได้ หรือทานเนื้อวัว เนื้อแพะไม่ได้ ทั้งนี้บริษัทฯจะพยายามจัดหาและแจ้งร้านอาหารก่อนการเดินทางทุกครั้ง กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถจัดหาได้ หรือถ้าจัดแล้วอาจจะต้องเป็นเมนูซ้ำๆ บริษัทฯ ขออนุญาตจัดเป็นสลัดผักท้องถิ่น ไข่ต้มหรือไข่เจียว หรืออาหารท้องถิ่นแบบไม่มีเนื้อสัตว์แทน
*กรณีลูกค้าที่เดินทางไปร่วมกับคณะในต่างประเทศหรือลูกค้าที่ไม่ได้เดินทางไป-กลับพร้อมคณะ เช่นเดินทางไปก่อน หรือยู่ต่อ ไม่กลับพร้อมคณะ ขอให้ลูกค้าทำประกันการเดินทางของท่านเอง เนื่องจากบริษัทฯ ทำประกันการเดินทางแบบหมู่คณะที่เดินทางไปกลับพร้อมคณะเท่านั้นและประกันเฉพาะอุบัติเหตุเท่านั้นไม่รวมสุขภาพ,ไม่รวมโควิด,ไม่รวมโรคประจำตัว,ไม่รวมภัยสงครามหรือภัยจากก่อการร้าย
*ที่นั่งบนรถบัส บริษัทฯขอความร่วมมือให้ลูกค้านั่งด้านหน้ารถบัสให้ครบทุกเบาะก่อน เพื่อให้ทุกท่านได้นั่งเบาะปกติก่อน และขอสงวนสิทธิ์แถวหน้าสุดสำหรับไกด์ และหัวหน้าทัวร์ เพื่อเป็นพื้นที่ประสานงาน ดังนั้นขอเก้าอี้แถวด้านหน้า ขอเป็นที่นั่งสำหรับที่นั่ง 1 ท่าน/เบาะที่นั่ง เนื่องจากเส้นทางระยะไกล เบาะที่นั่งแถวหลังอาจเกิดการเมารถและไม่สบายกับผู้ที่นั่งหลังๆได้
*บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ โรงแรมที่พัก ก่อนเดินทาง และหลังจบทริป ทุกกรณี เนื่องจากอยู่นอกเหนือจากโปรแกรมทัวร์ และเกิดจากเหตุผลที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ เช่น สายการบินล่าช้า สายการบินยกเลิก สายการบินเปลี่ยนเวลาบิน เหตุสุดวิสัยภัยทางธรรมชาติ เหตุสงคราม การจราจล เป็นต้น
1.หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน มีหน้าว่างไม่น้อยกว่า 4 หน้า ถ่ายแบบกาง 2 หน้าชัดเจน ห้ามขึดเขียน
2.ไฟล์รูปถ่าย แบบถ่ายรูปยื่นวีซ่า ใส่เสื้อสุภาพ ห้ามใส่เสื้อแขนกุด และโทนสีขาว ไม่ใส่เครื่องประดับ ผมไม่บังคิ้ว เห็นใบหูทั้ง2 ข้าง
3. แจ้งข้อมูลส่วนตัว และการทำงาน
4. เบอร์โทร /อีเมล์
*************