
ทัวร์ปากีสถานตอนเหนือ ตอนใต้ ลาฮอร์ แกรนด์ทัวร์ 13วัน
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
|
ทัวร์ปากีสถานตอนเหนือ-ใต้ แกรนด์ทัวร์ 13วัน
ทัวร์ไฮไลท์ สิ่งที่ได้รับ
นำท่านชม พิพิธภัณฑ์เปชาวร์ ด้านในมีทั้งหมด 2ชั้น ประกอบด้วยพระพุทธรูปแกะสลักหิน ยุคคันธาระจำนวนมากและหลักฐานชิ้นส่วนอื่นๆ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและเกี่ยวกับพระเจ้ากนิษกะได้เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ที่เมืองเปชวาร์แห่งนี้ พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยางานชิ้นเอกชิ้นหนึ่งที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เปชาวาร์หาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาที่ ตาขท์ อี ไภ สถานที่แห่งนี้ในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนายังไม่ทราบว่าเรียกชื่ออะไร ไม่ปรากฏในบันทึกของพระถังซำจั๋ง แต่เรียกกันในปัจจุบันนี้ว่า ตาขท์ อี ไภ ซึ่งอยู่ที่เมืองมาร์ดาน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศปากีสถาน เป็นซากพุทธสถานของวัดในพระพุทธศาสนาที่ใหญ่มาก ตั้งอยู่บนภูเขาสูงประมาณ ๕๐๐ ฟุต จากพื้นราบ เป็นวัดที่อยู่ด้านนอกของเทือกเขาฮินดูกูฏ วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ศึกษาศิลปะวิทยาต่างๆ มหาวิทยาลัยที่มีบริเวณกว้างใหญ่ มีลักษณะการสร้างเหมือนวัดต่างๆ ในยุคสมัยนั้น คือ มีเจดีย์อยู่ตรงกลาง รอบๆ เป็นห้องสวดมนต์และเป็นห้องประชุมสังฆกรรมเส้นทางคาราโคลัม Karakorum เส้นทาง เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนและปากีสถานเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางคาราวานสายไหมในอดีตแต่ทางการจีนได้ลงทุนทำถนนไฮเวย์ที่อยู่สูงความสูงอยู่ในช่วงตั้งแต่ 1,000-4,000 กว่าเมตรเหนือระดับน้ำทะเล ระยะทางเริ่มต้นจากเมืองคัชการ์(Kashkar) ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนสู่เมืองแอบบ็อตตาบัด ประเทศปากีสถาน เริ่มก่อสร้างในปี 1959 และเสร็จในปี 1979 ถือว่าเป็นเส้นทางที่เรียกว่าได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอันดับ 8 เหตุเพราะว่าเส้นทางการก่อสร้างที่ยากลำบากบนถนนที่สูงและผ่านภูเขามากมายประกอบต้องเผชิญกับอากาศที่รุนแรงทำให้การสร้างถนนใช้เวลานานถึง20ปี
ผ่านชมทะเลสาปอัตตาบัด ที่เกิดจากดินสไลด์ และปิดตัวลงมาปิดเส้นทางน้ำตอนเหนือของหมู่บ้าน ทำให้เกิดเป็นทะเลสาปยาว 21กิโลเมตรและลึก 100เมตร ระหว่างทางชมยอดทิวเขาคล้ายเหมือนยอดเขาโบสถ์
สู่ทางตอนใต้สู่ เมืองเบชาม ระหว่างทางบนถนนคาราโคลัมแวะชมจุดจอดรถชมวิวเทือกเขาสลับวิวทะเลสาบมากมายเมืองโบราณวัดจัวเลียน ซากวัดในพระพุทธศาสนาที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุดในตักศิลาสร้างในสมัยราชวงศ์กุศาณะราวพุทธศตวรรษที่ 7มีกำแพงหินสูงใหญ่ล้อมรอบเจดีย์ประธานและห้องกุฏิเรียงรายในผังสี่เหลี่ยมจตุรัสและเจดีย์รายขนาดเล็ก ประดับประติมากรรมปูนปั้นพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์และสัตว์ในชาดก เช่นช้างเป็นต้น
ป้อมปราการแห่งลาฮอร์ ซึ่งเป็นมรดกโลกตามคำประกาศของยูเนสโก้ถูกสร้างในศตวรรษที่ 11 หลังคริสตกาล เป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่สามารถเห็นความแตกต่างของสถาปัตยกรรมโมกุล ในแต่ละยุคสมัยของผู้ปกครองที่ได้สร้างต่อเติม ป้อมลาฮอร์เป็น พระราชวังโบราณสร้างโดยจักรพรรดิอักบาร์ในระหว่างปี 2099-2149 บนฐานของเชิงเทินโบราณได้รับการต่อเติมโดยจักรพรรดิโมกุลองค์ต่อๆ มา เช่น จะฮานกีร์และราชโอรสรวมไปถึงชาห์จะฮาน ผู้ก่อสร้างทัชมาฮาล
ชมด้านนอกสุเหร่าบัดซาฮิ หรือ สุเหร่าหลวง ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้านหน้าของสุเหร่าเป็นลานกว้าง มีหอสวดมนต์ที่จุคนได้ราวสองพันคนลานกว้างของมัสยิดนี้จุคนได้ราวห้าหมื่นคน สุเหร่าบัดซาฮิถูกปล่อยให้รกร้างเป็นเวลานาน

